|
คอลัมน์ เดินสายไหว้พระพุทธ
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก ผู้จัดการออนไลน์
|
'พระเจ้าแข้งคม' เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ศักดิ์สิทธิ์ ปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ขัดสมาธิราบ วัสดุสัมฤทธิ์ลงรักปิดทอง ขนาดหน้าตักกว้าง 94 นิ้ว สูง 112 นิ้ว น้ำหนัก 3,960 กิโลกรัม ศิลปะสมัยล้านนา มีลักษณะพิเศษคือ พระชงฆ์เป็นสันขึ้น จึงเรียกว่า "แข้งคม"
หนังสือชินกาลมาลีปกรณ์ ได้กล่าวถึงพระเจ้าแข้งคม หรือพระป่าตาลน้อยว่า มีพุทธลักษณะแบบลวปุระ และขนานนามว่า "พระกัมโพชปฏิมา" มีประวัติว่า พระเจ้าติโลกราช เจ้านครเชียงใหม่องค์ที่ 10 (พุทธศักราช 1985-2031) พระนามบาลีว่า พระเจ้าสิริธรรมจักรพรรดิ พิกลราชาธิราช ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง เป็นผู้สร้างพระพุทธรูปองค์นี้ ได้กล่าวถึงประวัติว่า
"ปีเถาะ จุลศักราช 849 (พุทธศักราช 2027) วันพุธ ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 8 จันทร์เสวย สตภิสฤกษ์ พระเจ้าสิริธรรมจักรพรรดิพิกลราชาธิราช ทรงมอบภาระให้สีหคตเสนาบดี และอาณากิจจาธิบดีมหาอำมาตย์ หล่อพระพุทธรูปสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ ทองหนักประมาณสามสิบสามแสน ให้มีลักษณะเหมือนพระพุทธรูปแบบลวปุระ หล่อที่วัดป่าตาลมหาวิหารทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ราชธานีเชียงใหม่"
"ครั้นหล่อเสร็จแล้ว พระมหากษัตริย์ทรงอัญเชิญพระบรมสารีริก ธาตุประมาณ 500 องค์ กับพระพุทธรูปแก้ว ทอง และเงิน จากหอพระธาตุส่วนพระองค์ มาบรรจุไว้ในพระเศียรพระพุทธรูปสัมฤทธิ์องค์ใหญ่"
พุทธลักษณะพิเศษของพระพุทธรูปที่พระเจ้าติโลกราชโปรดให้สร้าง นักโบราณคดีปัจจุบันกล่าวว่า มีศิลปะสมัยอู่ทองผสม พระชงฆ์เป็นแนวสัน จึงเรียกว่าพระแข้งคม
มีความแตกต่างจากแบบแผนของศิลปะล้านนาที่มีมาแต่เดิมอย่างเห็นได้ชัด คือ พระพักตร์สี่เหลี่ยม พระเนตรโปน พระโอษฐ์หนา ขอบพระโอษฐ์ซ้อนกัน 2 เส้น มีไรพระศก ขมวดพระเกศาเป็นเม็ดเล็ก พระรัศมีเป็นเปลวสูง สังฆาฏิเป็นแผ่นขนาดใหญ่ยาวลงมาจรดพระนาภี ปลายเป็นริ้วพับซ้อนกัน พระหัตถ์ขวาวางอยู่กึ่งกลางพระชงฆ์ นิ้วพระหัตถ์ยาวไม่เสมอกัน
ลักษณะดังกล่าวนี้สามารถ เปรียบเทียบได้กับพระพุทธรูปแบบอู่ทองรุ่นที่ 2 ที่มีอิทธิพลของศิลปะเขมรแบบบายน
สำหรับ 'วัดศรีเกิด' หรือ วัดพิชาราม เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่ง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ที่ขนย้ายมาจากวัดร้างนอกเมือง
พระพุทธรูปองค์นี้มีนานตั้งแต่แรกสร้างว่า พระป่าตาลน้อย แต่เนื่องจากองค์พระมีลักษณะเด่น คือ พระชงฆ์ (หน้าแข้ง) เป็นสันคมเห็นได้ชัด ผู้คนจึงพากันเรียกขานตามสำเนียงพื้นเมือง ว่า พระเจ้าแค่งคมหรือพระเจ้าแข่งคม หรือพระเจ้าแข้งคมแทน
พระเจ้าแข้งคม หล่อขึ้นในสมัยพระเจ้าติโลกราช โดยใช้ทองสำริดหนัก 33 แสน (หรือเท่ากับ 3,960 กิโลกรัม) ทำการหล่อ ณ วัดตาลวันมหาวิหาร (วัดป่าตาล) ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ (ปัจจุบัน คือ บริเวณหลังโรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ) นอกเมือง โดยพระเจ้าติโลกราชมีพระประสงค์ให้เป็นพระพุทธรูปแบบลวปุระ เมื่อหล่อเสร็จทรงบรรจุพระธาตุ 500 องค์แล้วขนานนามว่า พระป่าตาลน้อยประดิษฐานอยู่ที่วัดป่าตาลมาเป็นเวลาถึง 316 ปี
อย่างไรก็ดี พระเจ้าแข้งคมที่เห็นในปัจจุบัน นักวิชาการศิลปะมีความเห็นว่ามีพุทธศิลปะเป็นแบบสุโขทัยผสมล้านนามากกว่าแบบลพบุรี
ในปี พ.ศ.2342 วัดป่าตาลได้กลายเป็นวัดร้างชำรุดทรุดโทรมเป็นที่น่าเศร้าใจ เจ้าเมืองเชียงใหม่ขณะนั้น คือ พระเจ้ากาวิละ จึงให้เชิญพระป่าตาลน้อยมายังวัดศรีเกิดโดยสร้างวิหารขึ้นประดิษฐานสืบมาจนปัจจุบัน
ทุกปีในเทศกาลสงกรานต์จะมีการสรงน้ำพระธาตุหน้าพระวิหาร ในวันที่ 15 เมษายน และจะมีการสรงน้ำพระเจ้าแข้งคมด้วย
.......
บารมีเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่นกรุงธนบุรี คุ้มครองชีวิต(คลิ๊ก) https://bit.ly/2P0sbzR
ชมภาพทั้งหมด คลิ๊ก ชมคลิปทั้งหมด คลิ๊ก
ชมภาพทั้งหมด คลิ๊ก ชมคลิปทั้งหมด คลิ๊ก
|
|