พระเทพญาณมุนี

พระเทพญาณมุนี

อริยะโลกที่ 6
ชาติชาย เกียรติพิริยะ

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก Khaosod Online

เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา วงการสงฆ์เมืองปากน้ำโพ ได้สูญเสียพระสังฆาธิการชั้นผู้ใหญ่ เมื่อ พระเทพญาณมุนี (วิศิษฎ์ ปัญญาปโชโต) เจ้าอาวาสวัดวรนาถบรรพต อ.เมือง จ.นครสวรรรค์ และรองเจ้าคณะภาค 4 มรณภาพอย่างสงบ ณ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์

พระเทพญาณมุนี เป็นพระเถระที่มีวัตรปฏิบัติอันน่ายกย่อง เป็นพระสุปฏิปันโน ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เป็นที่เลื่อมใสของชาวเมืองปากน้ำโพ

อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า วิศิษฎ์ แจ่มฐิน เกิดเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2476 บ้านเดิมเลขที่ 12 หมู่ 9 ต.ไผ่ท่าโพธิ์ อ.โพทะเล จ.พิจิตร

ในช่วงวัยเยาว์ ท่านได้เข้าโรงเรียน พ.ศ.2486 จบชั้น ป.4 จากโรงเรียนประชาบาลวัดดงเสือเหลือง ต.ไผ่ท่าโพธิ์ อ.โพทะเล จ.พิจิตร เมื่อท่านเติบใหญ่โตได้ช่วยโยมบิดา-มารดา ทำงานหาเลี้ยงชีพตามปกติ

วันที่ 5 มี.ค.2492 ได้เข้าพิธีบรรพชา ณ วัดนครสวรรค์ ต.ปาก น้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีพระเทพสิทธินายก เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ วัดนครสวรรค์ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เป็นพระอุปัชฌาย์

เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2496 ณ วัดนครสวรรค์ มีพระเทพสิทธินายก เป็นพระอุปัชฌาย์

ครั้นต่อมา พระวิศิษฎ์ได้เล่าเรียนศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรม จากนั้นได้ไปสอบ ปรากฏว่าสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ในปี พ.ศ.2499 สำนักเรียนวัดนครสวรรค์

จากนั้นได้เล่าเรียนศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลี พ.ศ.2507 สอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค สำนักเรียนวัดนครสวรรค์ พ.ศ.2517 สอบได้วิชาชุดครูพิเศษมูล พ.ศ.2542 ได้รับปริญญาบัตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับการปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2503 เป็นเลขานุการเจ้าคณะอำเภอเมืองนครสวรรค์ พ.ศ.2506 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พ.ศ.2507 เป็นเจ้าอาวาสวัดวรนาถบรรพต พ.ศ.2517 เป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองนครสวรรค์ พ.ศ. 2540 เป็นเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ.2546 เป็นรองเจ้าคณะภาค 4

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2512 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นเอก ในราชทินนามพระครูวิศิษฎ์จริยาวัตร

พ.ศ.2533 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนาม พระสุธีรธรรมโสภณ

พ.ศ.2542 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนาม พระราชพรหมาภรณ์

พ.ศ.2549 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนาม พระเทพญาณมุนี

พระเทพญาณมุนี เป็นพระเถระที่ชอบสั่งสอนด้วยการปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างแก่คณะสงฆ์และสาธุชนทั่วไป วัตรปฏิบัติที่ท่านปฏิบัติมิได้ขาดเลย คือ การออกบิณฑบาตทุกเช้า

ท่านเคยกล่าวว่า "การออกบิณฑบาตเพื่อโปรดสัตว์ ถือเป็นกิจของสงฆ์" ไม่ว่าท่านจะอยู่ในฐานะตำแหน่งใด ท่านจะออกบิณฑบาตทุกเช้า

ท่านยังได้บริจาคทรัพย์เพื่อสาธารณกุศลและประโยชน์ส่วนรวม รวมเป็นเงินหลายสิบล้านบาท เช่น สมทบทุนสภากาชาดไทย สมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา จัดหาทุนสร้างศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ สมทบทุนมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี

พระเทพญาณมุนี เป็นพระสงฆ์ที่ได้รับความเคารพศรัทธาเลื่อมใสจากศิษยานุศิษย์ ทั้งยังดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่พระภิกษุและฆราวาสรุ่นหลัง สร้างคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อวงการสงฆ์และศาสนามาตลอดตราบจนวาระสุดท้าย

เมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. วันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา พระเทพญาณมุนี ได้มรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 79 ปี พรรษา 58

สำหรับสาเหตุการมรณภาพครั้งนี้ ทราบจากพระลูกวัดว่า ท่านเจ้าคุณพระเทพญาณมุนี มีอาการป่วยเรื้อรังหลายโรค เช่น โรคปอด โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ท่านเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ก่อนถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสงฆ์ กรุงเทพฯ และกลับมาพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์อีกหลายครั้ง

ล่าสุดเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2554 ด้วยโรคประจำตัวและนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมาตลอด จนกระทั่งช่วงเช้ามืดวันที่ 2 ก.พ. เจ้าหน้าที่พยาบาลจะเข้าไปเช็ดตัวให้ พบว่าท่านมรณภาพแล้ว

นับวˆาเป็นการสูญเสียพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์และผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบอีกรูปหนึ่งของเมืองนครสวรรค์ ที่เป็นพระผู้ใหญ่ ที่มีประชาชนเคารพนับถือมากมาย