ยินดีต้อนรับ ( เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก )


watnongmuang.com

FAN PAGE!!

 
Reply to this topicStart new topic
> เจตนาคือกรรม
Witwatarun
โพสต์ Jul 15 2007, 07:11 AM
โพสต์ #1


Advanced Member
***

กลุ่ม : Root Admin
โพสต์ : 1,203
เป็นสมาชิกเมื่อ : 29-June 07
หมายเลขสมาชิก : 3



เจตนาคือกรรม

คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด



ธรรมชาติของใจ ส่วนมากจะไหลไปตามกระแสกิเลส มีการใฝ่ต่ำเป็นธรรมดาอยู่แล้ว อุปมาเหมือนกระแสน้ำย่อมไหลลงไปสู่ที่ต่ำ ใจของคนเราส่วนมากเช่นเดียวกัน คิดแต่จะกระทำชั่วอยู่เนืองนิตย์

เมื่อประจวบกับเหตุที่เหมาะแล้ว เขาจะกระทำชั่วได้ทันที

การกระทำกรรมดี เป็นสิ่งยากยิ่ง เหมือนกับการทดน้ำอันมีธรรมชาติไหลไปสู่ที่ต่ำ ให้ไหลขึ้นที่สูง หรือเหมือนการพายเรือทวนกระแสน้ำ จะต้องอาศัยความพยายามมาก อาศัยกำลังมากจึงสามารถนำเรือแหวกทวนกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากนั้นได้สำเร็จ

ปัจจุบันนี้มีเหตุที่ยั่วยุให้เราคิดกระทำชั่วมากมาย คนเราจึงตกเป็นทาสของความชั่วมากขึ้น ความละอายและความเกรงกลัวต่อบาป ความเมตตากรุณาต่อกันก็เสื่อมไป เมื่อเป็นเช่นนี้ อะไรที่จะเป็นหลักประกันความสุขสงบได้ เป็นหลักประกันความกลัวไม่ให้เกิดขึ้นได้ ไม่มีเลย โลกเราจะตกอยู่ในฐานะที่เป็นศัตรูต่อกันตลอด เพราะการกระทำชั่วเป็นเหตุ

ความเข้าใจในกฎแห่งกรรมจึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นเครื่องให้ความสว่างทางใจแก่ทุกคน ความฉลาดในกฎแห่งกรรมนี้ที่ทำให้ทุกคนละเว้นความชั่ว แล้วประพฤติดี

กรรมคืออะไร ควรศึกษาให้เข้าใจในเบื้องต้น เพราะส่วนมากยังเข้าใจถึงเรื่องกรรมไม่ชัดเจน เข้าใจว่าเป็นเรื่องของความไม่ดี ถึงคราวเกิดความทุกข์ความเดือดร้อนขึ้นมามักจะพูดกันว่า เป็นกรรมของเรา เห็นใครเกิดความทุกข์ความเดือดร้อนก็บ่นว่า เป็นกรรมของเขา แต่เมื่อถึงคราวที่เราเกิดความสุขสำราญกลับพูดว่าเป็นบุญของเรา เห็นคนอื่นมีความสุขมักจะพูดว่า เป็นบุญของเขา ทำให้เข้าใจว่ากรรมเป็นเรื่องไม่ดี บางครั้งเติมเวรเข้าไปด้วย จึงเป็นเวรกรรมหรือกรรมเวร กลับกันไปกลับกันมาอยู่อย่างนี้

กรรม แปลว่า การกระทำ แสดงให้เห็นว่าการกระทำนั้นเป็นตัวกรรม โดยไม่ได้จำกัดว่า เป็นการกระทำดีหรือชั่ว กรรมจึงเป็นคำกลางๆ จะเป็นเรื่องของความดีหรือความชั่วอย่างเดียวไม่ได้

การกระทำที่ปรากฏออกมา ต้องอาศัยเจตนาคือความตั้งใจเป็นสำคัญ พระพุทธองค์ตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่าเจตนาคือตัวกรรม สัตว์ที่กระทำกรรมด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจก็ดี ย่อมมีการปรุงแต่งคือนึกคิดก่อนแล้วจึงทำ

เจตนาเกิดขึ้นแล้ว เป็นเหตุให้เกิดการกระทำ ซึ่งการแสดงออกมีเพียงสามทางเท่านั้น คือ การกระทำทางกาย เรียกว่า กายกรรม การกระทำทางวาจา เรียกว่า วจีกรรม กระทำทางใจ เรียกว่า มโนกรรม

กรรมเป็นเพียงเหตุกับผล เรื่องกรรมจึงเป็นวิทยาศาสตร์ด้วย เพราะแสดงถึงเหตุกับผล เหตุเช่นใด ผลก็เช่นนั้น พระพุทธองค์ตรัสว่า บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น ผู้ทำกรรมดี ย่อมได้รับผลดี ผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมได้รับผลชั่ว



--------------------
อีกหนึ่งบริการใหม่ของเรา หนังสือพิมพ์กะฉ่อนดอทคอม ในหมวดพระเครื่อง

เพื่อให้เกิดความสดวกสบายสำหรับท่านสมาชิกผู้ใช้บริการของเรา หนังสือพิมพ์กะฉ่อนดอทคอม ทีมงานหนังสือพิมพ์กะฉ่อนดอทคอม จึงได้เปิดให้บริการใหม่ใน 4 หมวดคือ

1.วัตถุมงคลคณาจารย์ รุ่นต่างๆ(คลิ๊ก)
https://sacred.kachon.com

.....
2.ข่าววงการพระเครื่อง(คลิ๊ก)
https://publish.kachon.com

.....
3.ประวัติพระเกจิอาจารย์(คลิ๊ก)
https://monkhistory.kachon.com

.....
4.ประวัติวัดและพระพุทธรูป(คลิ๊ก)
https://historyoftemples.kachon.com


เป็น 4 หมวดที่เกี่ยวกับพระเครื่องโดยตรงในเว็ปกะฉ่อนดอทคอม ท่านสมาชิกสามารถใช้บริการของเราได้ในเว็ปเดียวโดยไปต้องย้อนกลับไปยังเว็ป https://pra.kachon.com อีกต่อไป ทีมงานหนังสือพิมพ์กะฉ่อนดอทคอม หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านสมาชิกจะได้รับความสดวกสบายและพอใจในบริการใหม่ของเราในครั้งนี้ความสดวกสบายและ
พอใจในบริการใหม่ของเราในครั้งนี้
Go to the top of the page
 
+Quote Post

Reply to this topicStart new topic
มี 1 คน กำลังอ่านหัวข้อนี้ (บุลคลทั่วไป 1 คน และ 0 สมาชิกที่ไม่เปิดเผยตัว)
สมาชิก 0 คน คือ :

 




Lo-Fi Version ขณะนี้เวลา : 19th April 2024 - 03:12 PM