ประวัติ หลวงพ่อโต วัดวิหารทอง อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท
ประวัติ หลวงพ่อโต วัดวิหารทอง อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาทเราจะคุยกันถึง
พระเกจิอาจารย์ของอำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท ซึ่งท่านเป็น
พระเกจิอาจารย์ที่มีผู้เคารพนับถือเลื่อมใสท่านมาก คือ
หลวงพ่อโต วัดวิหารทอง ท่านเป็นพระสงฆ์ที่เข้มขลังในวิทยาคมมากรูปหนึ่งของจังหวัดชัยนาท
วัดวิหารทอง ตั้งอยู่ที่ตำบลเที่ยงแท้ อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท วัดอยู่ติดกับแม่น้ำน้อย อยู่ใกล้กับที่ว่าการอำเภอสรรคบุรี เดิมเป็นวัดโบราณอยู่ในกำแพงเมืองสรรค์ ในสมัยอยุธยาตอนปลาย ต่อมากลายสภาพเป็นวัดร้าง ในสมัยรัชกาลที่ 5 ผู้ปกครองเมืองสรรค์ ชื่อหลวงวัง และนายสอน ได้นำวัวมาเลี้ยงในบริเวณนี้และพบองค์พระเจดีย์เก่าแก่ ภายหลังนายสอนได้บวช และมาจำพรรษาที่องค์พระเจดีย์ร้าง แล้วก็ได้ช่วยกันบูรณปฏิสังขรณ์จนเป็นวัดขึ้น และมีเจ้าอาวาสสืบต่อๆ กันมาจนถึงปัจจุบันนี้
ประวัติหลวงพ่อโต ท่านเกิดที่ตำบลดงคอน อำเภอสรรคบุรี เมื่อปีพ.ศ.2401 โยมบิดาชื่อเงิน โยมมารดาชื่อปุ้น เมื่อท่านอายุได้ 7 ขวบ ได้บรรพชาเป็นสามเณร และเมื่ออายุได้ 20 ปีบริบูรณ์ ท่านจึงได้อุปสมบทที่วัดท่าทวน อำเภอสรรคบุรี โดยมีพระอุปัชฌาย์อ่วม เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่ออุปสมบทแล้วท่านได้เดินทางมาศึกษาบาลีสันกฤตที่วัดสามปลื้ม กทม. ต่อมาภายหลังจึงได้กลับมาจำพรรษาอยู่ที่ วัดวิหารทอง อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท ระหว่างนี้ท่านก็ได้ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานและวิทยาคมกับ
พระเกจิอาจารย์ดังในอดีตดังต่อไปนี้ อาทิเช่น พระอุปัชฌาย์อ่วม หลวงพ่อเฒ่า วัดค้างคาว
หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลังจากที่หลวงพ่อเมฆ เจ้าอาวาสวัดวิหารทองมรณภาพ ชาวบ้านต่างพร้อมใจกันนิมนต์หลวงพ่อโต ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสสืบแทนต่อมา
เมื่อท่านได้เป็นเจ้าอาวาสแล้วท่านก็ได้บูรณปฏิสังขรณ์ และพัฒนาวัดวิหารทอง และวัดอื่นๆ จนมีความเจริญรุ่งเรือง โดยท่านเป็นศูนย์รวมใจของชาวบ้านสร้าง มณฑปพระ พุทธบาทจำลอง วัดวิหารทอง ศาลาการ เปรียญวัดบ้านเชี่ยน สร้างพระอุโบสถ วิหาร หอประชุม ศาลาการเปรียญ วัดดงคอน ศาลาการเปรียญวัดสระแก้ว ศาลาการเปรียญวัดนก ศาลาการเปรียญวัดบางขุด ศาลาการเปรียญวัดท่าโบสถ์ ศาลาการเปรียญวัดมหาธาตุ ศาลาการเปรียญวัดกำแพง ศาลาการเปรียญวัดสระไม้แดง เป็นต้น
ท่านได้ช่วยสร้างความเจริญให้แก่วัดต่างๆ มากมาย
หลวงพ่อโต ท่านเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ มีตบะแก่กล้า พูดน้อย และมีวาจาสิทธิ์ เรื่องวาจาสิทธิ์ของท่านนั้นเป็นที่ทราบกันดีของชาวบ้าน
ซึ่งก็มีเรื่องอยู่มากมาย เช่น มีชาวบ้านถูกโจรกระตุกสร้อยคอ แล้วมาบอกหลวงพ่อ ท่านบอกว่า "ไม่หาย มันเอาไปไม่ได้" ปรากฏว่าอีกสักพักใหญ่คนร้ายได้วิ่งเข้ามาในวัด และเอาสายสร้อยมาคืนเจ้าของ เข้าใจว่าคนร้ายไปไหนไม่ได้หรืองงงวยจนทำอะไรไม่ถูกจึงนำสร้อยกลับมาคืนที่ วัด
อีกครั้งหนึ่ง ที่วัดโพธิ์ทองนิมนต์ท่านไปงานวัดโพธิ์ทอง เมื่องานเลิก ก็มีคนมาแจ้งกับหลวงพ่อว่าจักรยานหาย หลวงพ่อโตท่านก็ว่า "เดี๋ยวมันก็ขี่กลับมาเอง" และบอกให้ชายคนนั้นนั่งรอ ปรากฏว่าประมาณครึ่งชั่วโมง ขโมยได้ขี่จักรยานเข้ามาในวัด กรรมการวัดจึงจับตัวไว้ได้
เรื่องไฟไหม้บ้านผู้ใหญ่โต๊ะ เนื่องจากวัดมีงานและชาวบ้านจุดตะไลแต่ ตะไลไม่ขึ้นกลับวิ่งข้ามแม่น้ำไปตกบนหลังคาบ้านผู้ใหญ่ ไฟไหม้โหมแรงมาก กำลังจะลามไปติดบ้านชาวบ้านอีกหลายหลัง กรรมการวัดรีบวิ่งไปบอกหลวงพ่อ ท่านจึงลงมาดู และท่านได้ใช้ผ้าแดงโบก 3 ครั้ง แล้วพูดว่า "เอาแต่หลังเดียว" ปรากฏว่าไฟค่อยๆ ดับลงโดยไม่ลามไปติดบ้านหลังอื่นๆ วันรุ่งขึ้นหลวงพ่อได้นำไม้สัก หลังคาไปให้ผู้ใหญ่สร้างบ้านใหม่
หลวงพ่อโต วัดวิหารทองท่านได้สร้าง
เครื่องรางของขลัง และ
วัตถุมงคลไว้หลายอย่าง เช่น
ตะกรุดผ้ายันต์ เสื้อยันต์มงคลแขน โดยท่านจะเขียนยันต์เป็นภาษาไทย ซึ่งต่างจากเกจิอาจารย์ท่านอื่นๆ การสร้าง
พระเครื่องนั้น ท่านก็ได้สร้างไว้ เช่น เหรียญพระพุทธปางลีลาเนื้อทองเหลืองมีหูในตัว พระพิมพ์เนื้อตะกั่ว ทั้งพิมพ์นั่งและยืน นอกจากนี้ยังมีเหรียญรุ่นแรกรุ่นเดียวเป็นรูปท่านครึ่งองค์ ปัจจุบันหาชมยาก หลวงพ่อโตท่านมรภาพเมื่อปีพ.ศ.2485 สิริอายุได้ 84 ปี พรรษาที่ 63
ประวัติพระเกจิอาจารย์ นำมาจาก
http://www.itti-patihan.com/ประวัติ-หลวงพ่...หวัดชัยนาท.html