ยินดีต้อนรับ ( เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก )


watnongmuang.com

FAN PAGE!!

> [เหนือฟ้าใต้บาดาล] ยกเสามังกร แม่ทับทิม ปาฏิหาริย์ สำแดงรอยเกล็ด, [เหนือฟ้าใต้บาดาล] ยกเสามังกร แม่ทับทิม ปาฏิหาริย์ สำแดงรอยเกล็ด
อิทธิปาฏิหาริย์
โพสต์ Sep 15 2013, 04:02 PM
โพสต์ #1


Advanced Member
***

กลุ่ม : สมาชิกลงทะเบียน
โพสต์ : 253
เป็นสมาชิกเมื่อ : 29-October 07
หมายเลขสมาชิก : 236



[เหนือฟ้าใต้บาดาล] ยกเสามังกร แม่ทับทิม ปาฏิหาริย์ สำแดงรอยเกล็ด



หลวงพ่อจอยกับอาจารย์แห้ว.

ใหหนาน...หรือ “ใหหนำ” เป็นนามเชื้อสายชนภาคใต้ของจีน ซึ่งคนไทยเรียกเพี้ยนเป็น... ใหหลำ

ภูมิประเทศ....ใหหนำ เป็นหมู่เกาะ แม้จะอุดมสมบูรณ์ด้วยมะพร้าวและอาหารทะเล แต่ก็ต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติ (พายุ) ชนบางกลุ่มจึงอพยพเข้าสู่อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์และสยาม...

O O O

ราวๆ 300 ปี.....ที่ชนใหหนำ (ต้นตระกูล แซ่ภู่ แซ่ด่าน แซ่ลี้...ฯลฯ) ขึ้นฝั่งปัตตานี สงขลา ถลาง แล้วกระจายไปทั่วทางภาคใต้ แผ่กระทั่งไปถึงภาคกลาง อีสาน เหนือ...

ปัจจุบัน....ใหหนำตั้งองค์กร ต่างๆทั้งที่เป็นสมาคมและชมรม รวมกันแล้วกว่า 70 องค์กร ทุกๆปีจะมีการจัดกิจกรรมร่วม ปีนี้กำหนดจัดเข้าค่ายเยาวชน ขึ้นระหว่างวันที่ 18 ถึง 20 ตุลาคม ณ โรงแรมโกลเด้นท์แลนด์รีสอร์ท นครราชสีมา

ชนใหหนำอพยพมาปักหลักที่นครราชสีมาหรือ “โคราช” จากปากต่อปากเล่าว่า ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ รัชกาลที่ 3 ราวๆปี 2360 โดยเริ่มขยับจากปากช่อง สีคิ้ว สูงเนิน แล้วจึงเข้าสู่ตัวเมืองตั้งชุมชนย่านโพธิ์กลาง

O O O

องค์เจ้าแม่ทับทิม.
ชาว ใหหนำมีความ เลื่อมใสศรัทธาต่อ “เจ้าแม่ ทับทิม” ถือว่าเป็นเทพยดาแห่งท้องทะเลที่คุ้มครองผู้เดินทางเรือ เรียกกันว่า “ตุ้ยบ่วยเต่งเหนียง” หรือ “จุยบ่วยเนี่ยว” แปลว่า “เจ้าแม่ชายน้ำ”

อารยะ และวัฒนธรรมจึงติดมา เมื่อเกิดชุมชนก็ได้สร้างศาลเจ้าแม่ทับทิมกราบไหว้บูชา ประเดิมที่โคราชในปี 2400 ครั้งแรกๆก็เป็นเรือนไม้ธรรมดาๆ ต่อมาก็มีการพัฒนาขึ้นมาตามฐานะเศรษฐกิจของชุมชน กระทั่ง ในปี 2510 จึงได้สร้างเป็นอาคารคอนกรีตขึ้น ณ เลขที่ 333 ถนนโพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา

ศาลเจ้าฯแห่งนี้ สำแดงพลังให้กับคนโคราชและใกล้เคียงเกิดศรัทธาตามปรารถนา อาทิ เดินทางปลอดภัย การค้าประสบความสำเร็จ หายจากโรคภัย.....ฯลฯ จนเป็นที่เลื่องลือ

O O O

นายอัฐพล ประธาน.
นาย อัฐพล สัมพันธ์วงศ์ ประธานชมรมใหหนำนครราชสีมา หัวหน้าทีมดูแลและรับผิดชอบ “ศาลเจ้าแม่ทับทิม นครราชสีมา” ได้รับแรงสนับสนุนจาก เจ้าสัวจรินทร์ ธัญญะเศรษฐ ที่ปรึกษาให้ดำเนินการพัฒนาด้วยการรวมศรัทธา.....ในการร่วมสร้าง “ศาลาตี่แป่บ้อ”(...ศาลาแป่บ้อเป็นศาลาฟ้าดิน ปริมณฑลด้านหน้ามีเสา 9 มังกร สูง 9 เมตร...)

เพื่อ...เป็นศูนย์กลางในการทำพิธีกรรมบูชาฟ้า ดินเทพเจ้า ให้เกิดสิริมงคลแก่ผู้ที่มาสักการะองค์เจ้าแม่ทับทิมนครราชสีมา เชื่อมมูลฐานความเลื่อมใส ศาลเจ้าแม่กวนอิมหนานซาน ณ เมืองซันยา มณฑลใหหนำ อันสูงถึง 109 เมตร

โดย ศรัทธาว่า....ผู้ที่ร่วมสร้าง “เสาฟ้าดิน 9 มังกร” จะได้อานิสงส์ 9 ประการ เสริมดวงเศรษฐี เป็นเศรษฐีในชาตินี้ฉับพลัน รวยทรัพย์ทั้งภายนอกและภายใน รวยบริวาร เพิ่มพูนบารมี ในชีวิตมีผู้คนนับถือ ค้ำดวงชะตา โรคภัยอันตรธาน พบแต่ความร่มเย็นราบรื่น

O O O
หลวงพ่อจอย กับนายอุทัย (ชุดสากล) กับคณะกรรมการ.
เสา ฟ้าดิน 9 มังกร...ต้นนี้รอการสร้างมานานถึง 42 ปี จึงได้ฤกษ์ในการวางศิลายกเสา เมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา โดย นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานสภาฯเป็นประธาน....

ในการนี้.....มีชาวจีนทั้ง เชื้อสายใหหนำ ตัวแทนจากองค์การต่างๆ พร้อมทั้งผู้เลื่อมใสเข้าร่วมพิธีกรรม กันอย่างท่วมท้นล้นหลาม อาทิ สรพงษ์ ชาตรี ประธานมูลนิธิหลวงปู่โตฯ....ฯลฯ

เปิด ฤกษ์ประเดิมชัยด้วย นายณรงค์ศักดิ์ คูกิติรันต์ หรือ “อาจารย์แห้ว หมอดูเทวดาตาทิพย์” ซินแสผู้รังสรรค์ ศาลเจ้าพ่อนาคราช ตำบลจันเสน อำเภอตาคลี นครสวรรค์ เปิดโลกด้วยการบวงสรวงเทพยดาจาก 16 ชั้นฟ้า อ่านโองการบอกกล่าว.....การสร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

O O O

ผู้ศรัทธาร่วมในการยกเสา.
จากนั้น พระครูอนุวัตรชินวงศ์ หรือ “หลวงพ่อจอย วัดโนนไทย” นำคณะสงฆ์ 8 รูปเจริญพระพุทธมนต์

หลวงพ่อจอย อายุ 75 ปี 51 พรรษา เกิดที่จังหวัดชัยภูมิ อายุ 24 ปีจึงเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ณ พัทธสีมาวัดสาริกา ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเกิดไม่ไกลนัก

หลังพ้นนวกะจึงได้ย้ายเข้ามาจำ พรรษาวัดในเขตจังหวัดนครราชสีมา ด้วยที่เป็นผู้ชอบปฏิบัติทางเจริญสมาธิ กิจส่วนหนึ่งคือออกธุดงค์ นอกจากเทือกดงพญาเย็นแล้วยังเข้าสู่พม่าและกัมพูชา จนมั่นใจว่าการภาวนาจิตนั้นแกร่งกล้าแล้วจึงกลับมา จำพรรษาอยู่วัดโนนไทย...กระทั่งปัจจุบัน

O O O

สรพงษ์กับภรรยาปิดทองเสา.
นอก จากนั้น “หลวงพ่อจอย” ก็ยังเคยอยู่ วัดหัวทะเล กับ วัดบ้านไร่ ถือเป็นอริสงฆ์รูปหนึ่งซึ่งหมั่นในกิจปฏิบัติสมาธิกิจ เจริญจิตภาวนา และรักสันโดษ จำวัด (นอน) น้อย ฉันน้อย

และ....ไม่ชอบสวมรองเท้า เหมือนกับ “หลวงพ่อคูณ” ผู้เป็นครูที่หลวงพ่อจอยรักมาก ครูท่านนี้ ได้ให้มรดกชิ้นหนึ่งเป็นหมอนทำด้วยไม้ เวลาจำวัด “หลวงพ่อจอย” จะหนุนหมอนใบนี้เป็นประจำ โดยตั้งจิตปณิธานว่า....จะหนุนหมอนไม้ไปตลอดชีวิต

ด้วย ปฏิบัติชอบนี้จึงได้รับความเลื่อมใสจากศิษยานุศิษย์ ซึ่งก็ได้รับการ ร้องขอให้สร้างวัตถุมงคลเพื่อเป็นอนุสรณ์ในความศรัทธา ด้วยเมตตาจิตท่านก็ให้สร้างจ่ายแจกไปบ้างแต่มิใช่เป็นพุทธพาณิชย์

O O O

เมื่อ ถึง ฤกษ์ในการยกเสา “เสาฟ้าดิน 9 มังกร” โดยอาจารย์แห้วเป็นผู้ประคองเสา (ที่ยังเป็นเหล็กเส้นผูกเป็นโครง) หลวงพ่อจอยนำคณะสงฆ์สวดคาถา พลันเกิดสิ่งที่คนทั้งหลายทุกๆ คนเห็นกันแบบจะๆ...คือ

....ฝนหยุดตก แดดจ้า เมฆบนฟ้าแตกเป็นก้อนเล็กๆ เป็นแนวเรียงกัน เสมือนกับเกล็ดมังกร พาดเป็นทางยาว 2 แนว จรดขอบฟ้า นกกาบินว่อนเหนือศาลเจ้าฯ ผู้คนต่างยกมือพนมเหนือหัว แล้วเอ่ยคำว่า...สาธุ

พอตั้งเสาเสร็จฟ้า ครึ้มต่อแล้วฝนก็เทลงมาห่าใหญ่...ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น มันอาจเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่บางรายบอกว่า ปาฏิหาริย์...ไม่เชื่ออย่าลบหลู่...!!!


--------------------
Go to the top of the page
 
+Quote Post



Reply to this topicStart new topic
มี 1 คน กำลังอ่านหัวข้อนี้ (บุลคลทั่วไป 1 คน และ 0 สมาชิกที่ไม่เปิดเผยตัว)
สมาชิก 0 คน คือ :

 




Lo-Fi Version ขณะนี้เวลา : 28th March 2024 - 08:22 PM