ยินดีต้อนรับ ( เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก )


watnongmuang.com

FAN PAGE!!

 
Reply to this topicStart new topic
> สนามพระ สนามพระเครื่อง วันที่ 06/10/56, สนามพระ สนามพระเครื่อง วันที่ 06/10/56
อิทธิปาฏิหาริย์
โพสต์ Oct 6 2013, 02:01 PM
โพสต์ #1


Advanced Member
***

กลุ่ม : สมาชิกลงทะเบียน
โพสต์ : 253
เป็นสมาชิกเมื่อ : 29-October 07
หมายเลขสมาชิก : 236



สนามพระ สนามพระเครื่อง วันที่ 06/10/56


พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ 6 ชั้นอกตัน วัดไชโยวรวิหาร อ่างทอง ของอ้วน ลอยฟ้า.

เข้า สนามพระ หน้า กินเจ เห็นหลายคนตั้งท่าเอาจริง เพราะ เดี๋ยวนี้อาหารเจหากินง่าย ไปที่ไหนก็เห็นธงเหลืองพร่ึบ แต่บางทีก็ขำ เพราะของกินบางอย่าง เช่น เต้าหู้ทอด ก็ขายกันทุกวัน พอหน้าเจ ก็กลัวตกเทรนด์ เลยเอาธงเหลืองมาปักฉึบ ให้กลายเป็นอาหารเจกับเขาด้วย

พระสมเด็จ พิมพ์ฐานแซม วัดระฆังโฆสิตาราม ของกิมฉุ้น สุขสวัสดิ์.
ไป ดูพระเครื่องที่มารับเทศกาลกินเจกัน องค์แรกเป็น พระหน้าใหม่ เพิ่งเข้าวงการ คือพระสมเด็จ พิมพ์ฐานแซม วัดระฆังโฆสิตาราม สภาพสมบูรณ์ได้สัดส่วน พิมพ์ทรงคมชัด เนื้อพระเข้มข้นมวลสาร มีก้อนขาว (ผงพุทธคุณ) เกร็ดแดง (เนื้อพระดินเผาเมืองกำแพงเพชรป่นละเอียด) ก้านดำ (ก้านธูปเผาหรือผงกระดานชนวน)

สภาพพระเครื่องมีร่องรอยสึกหรอจากการเลี่ยม แบบเก่า จับขอบ มีเงินหน่อยก็ใช้ขอบเงินขอบทอง เปิดหน้าเปิดหลัง ไม่ได้ทําตลับใส่รักษาองค์พระเครื่องเหมือนสมัยนี้ ใช้ไปๆ มาๆถึงปัจจุบันพระเครื่องจึงมีสภาพอย่างองค์นี้ แต่ก็ทําให้ พระเครื่องหน้าใหม่ องค์นี้เข้มขลัง มีเสน่ห์ และเป็นพระเครื่องแท้ดูง่าย แต่หายากอย่างยิ่งในยุคนี้ เจ้าของคือ เสี่ยกิมฉุ้น สุขสวัสดิ์

องค์ที่สองคือ พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ 6 ชั้นอกตัน วัดไชโยวรวิหาร อ่างทอง ที่สวยสมบูรณ์มาก เลย ต้องถามราคา แล้วก็ได้คําตอบทันทีว่า เพิ่งซื้อมาสดๆ 1 ล้าน 3 แสน 5 หมื่นพอถามว่า จะขายเท่าไร เสี่ยอ้วน ลอยฟ้า ก็ทำท่าอิดออด บอกว่ายังไม่ขาย

เหตุผล ที่ไม่ขาย ฟังแล้ว ไม่รู้เกี่ยวกันไหม เพราะเจ้าตัวบอกว่า จะบวชวันที่ 6 ต.ค. ซึ่งก็คือวันนี้ เพื่อความอุ่นใจในการนอนวัดครั้งแรกในชีวิต จึงอยากเอาพระไว้จําวัดเป็นเพื่อน สึกเมื่อไรค่อยว่ากัน-สรุปว่า บวชเป็นพระ แต่กลัวผี

พระปิดตา พิมพ์ชะลูดใหญ่ หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง นนทบุรี ของ พ.ต.ท.ฐาธนกร สาลีผล.
องค์ที่สาม คือ พระปิดตา พิมพ์ชะลูดใหญ่ หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง นนทบุรี

พระเครื่อง จัดสร้างด้วย ผงพระพุทธคุณ 3 ประสาน อิติปิโส ไตรสรณคมน์ โสฬสมหามงคล พิมพ์ พระมาตรฐานที่วงการนิยมเล่นหามี 2 พิมพ์คือ พิมพ์ชะลูด กับ พิมพ์ตะพาบ องค์นี้ของ พ.ต.ท.ฐาธนกร สาลีผล ส่งภาพมานาน แล้ว แต่ทีมงานเห็นเป็น พระแท้ สวยเยี่ยม จึงคัดแยกไว้เป็นพิเศษ แต่เก็บดีไปเลยลืม เพิ่งจะหาเจอ

พระเครื่ององค์ นี้ยิ่งดูยิ่งสวย เพราะเป็นพระเครื่องสร้างแบบพิมพ์ประกบ ที่กดพิมพ์ด้านหน้าได้ ลึก สุดพิมพ์ ด้านหลังก็มีเนื้อติดเต็มพิมพ์ตลอดองค์ รอยเหี่ยวย่นของเนื้อรัก (ดําปนแดง) ที่ครอบคลุมอยู่ทั่วองค์ก็เต็มร้อย บอกถึงอายุความเก่าได้เป็นอย่างดี-จึงขอสรุปคุณภาพของพระเครื่ององค์นี้ว่า สวย ขลัง คลาสสิก

พระปิดตาหลวงปู่ไข่ พิมพ์ใหญ่ วัดเชิงเลน กรุงเทพฯ ของกําพล วีรเทพสุภรณ์ .
พระปิดตาอีกสำนัก คือ พระปิดตาหลวงปู่ไข่ พิมพ์ใหญ่ วัดเชิงเลน กรุงเทพฯ ของ เสี่ยกําพล วีรเทพสุภรณ์ ซึ่งเล่ากันว่า เดิมเป็นองค์ของ เจ๊องุ่น เจ้าของรังพระเครื่องสุดสวย ที่มีชื่อเสียงมากในอดีต

พระปิดตายี่ห้อนี้มีอยู่ 3 พิมพ์ เรียกตามรูปพรรณสัณฐาน คือ ใหญ่ ชะลูด ต้อ

พิมพ์ ใหญ่ ได้รับความนิยมสูงสุด องค์แชมป์ๆ แบบนี้มีราคาเหยียบ หลักสิบล้าน ถูกจัดอยู่ในทําเนียบ เบญจภาคีพระปิดตาเนื้อผง อันดับที่ 3 พิมพ์พระมีลักษณะบีบผอมชะลูด มีปีกข้างตัดขอบเป็นทรงกลมรูปไข่ขนาดเขื่อง หลังพระมักอูมแบบหลังเบี้ย ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เนื้อพระเป็นผงพุทธคุณผสมมวลสารวิเศษ คลุกรักจุ่มรักบางองค์ปิดทองสูตรเดียวกับ พระปิดตาหลวงปู่จีน วัดท่าลาดเหนือ เมืองแปดริ้ว เจ้าตํารับวิชาสร้างพระปิดตาแห่งภาคตะวันออก

จัดเป็นพระมีพุทธคุณแรงด้านโชคลาภ ทํามาค้าขายเจริญรุ่งเรือง ดูได้จากลูกศิษย์ท่านส่วนใหญ่ เป็นต้นตระกูลมหาเศรษฐีของเมืองไทย

รูปเหมือนปั๊ม พิมพ์ B เนื้ออัลปาก้า หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ นครสวรรค์ ของ พล.ต.ต.ขัตติยะ อนันตวงศ์.
อีกรายการ คือ รูปเหมือนปั๊ม พิมพ์ B เนื้ออัลปาก้า หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ นครสวรรค์ ของอดีต ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก พล.ต.ต.ขัตติยะ อนันตวงศ์ ซึ่งข้าพเจ้าก็เก็บดีจนเกือบลืม---เห็นชื่อเจ้าของแล้วจําได้ว่าเคยมีภาพ พระรูปเหมือน หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน มาลงไปแล้ว

แต่เทียบแล้ว หลวงพ่อเดิม องค์นี้ สวยกว่า เพราะเป็นพระสภาพเต็มร้อย ทั้งองค์ไม่มีรอยสัมผัสใช้ให้เห็นแม้ปลายเข็ม ทุกเส้นศิลป์ติดชัดคมลึก คราบแห้งสีเหลืองในซอกส่วนลึก คือ เปลือกผิว ที่เกิดจากแรงปั๊มกระแทก บอกได้ถึงความเป็นพระที่ผ่านการเก็บรักษามาอย่างดี ไม่เคยผ่านการสัมผัสใช้มาก่อน

พระพิมพ์นี้มีแม่พิมพ์บล็อกเดียว ใช้จนเกิดความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ องค์พระที่ได้มาจึงแตกต่าง นักนิยมพระจับจุดต่างแยกเล่นได้เป็น 4 พิมพ์ A, B, C, D จุดแยกแยะ อยู่ที่ความคมชัดของเส้นศิลป์ และให้ดูที่ความลึกในซอกแขนขวาด้านหลังพิมพ์ A จะลึกสุด พิมพ์อื่นจะมีเนื้อโลหะติดตื้นขึ้นตามลําดับ

เหรียญรุ่นแรก 2484 (ขอบสตางค์) หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม สมุทรสงคราม ของสมศักดิ์ สินประสงค์.
ต่อไป เป็นรายการเหรียญ คือ เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.2484 (ขอบสตางค์) หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม สมุทรสงคราม ของ เสี่ยสมศักดิ์ สินประสงค์

สภาพ เหรียญผ่านการใช้มา รมดํา จึงลบเลือนไปหลายส่วน แต่ยังสวยคมชัดโชว์ได้ เพราะเหรียญรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ยุคเก่า จะสร้างน้อยแค่หลักร้อย ผู้ได้รับมักเป็นศิษย์ใกล้ชิด รับปุ๊บใช้ปั๊บ ไม่ต้องเลี่ยม เพราะมีห่วงเหรียญร้อยสร้อยหรือสายร่ม เหรียญที่เหลือตกมาถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่จึงเป็น เหรียญสภาพสึกๆ ส่วน อันแชมป์สภาพใช้ ที่มีน้อยมากๆ สืบดูล้วนเป็นเหรียญจากชั้นเจ้านาย ที่รู้จักเก็บรักษา

เหรียญนาคปรกใบมะขาม เนื้อทองคํา หลัง ภ.ป.ร. พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง นครศรีฯ ปี 2530 ของธนากร วรกิจจาธร.
อีกองค์คือ พระนาคปรกใบมะขาม เนื้อทองคํา หลัง ภ.ป.ร.พ่อ ท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง นครศรีธรรมราช ของ เสี่ยธนากร วรกิจจาธร

พ่อท่านคลิ้ง เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงแห่งเมืองใต้ มีชื่อเสียงเคียงคู่มากับ พระอาจารย์นํา วัดดอนศาลา มีศิษย์เคารพศรัทธายกย่องท่านเทียบได้กับ พ่อท่านคล้าย (วาจาสิทธิ์) วัดสวนขัน (เทพเจ้าของคนนคร) ด้วยวัตรปฏิบัติที่เพียบพร้อมอย่างพระแท้ และความเมตตาที่มีต่อศิษย์เสมอกัน

กล่าวกันว่าตอนท่านมีชีวิตอยู่ คนเมืองคอนและผู้ไปเยือน 9 ใน 10 คน ต้องเคยไปกราบนมัสการขอพร พรมน้ำมนต์ เป่ากระหม่อม ขอชานหมาก ทําบุญบูชาวัตถุมงคลกับท่าน ซึ่งมีอายุยืนยาวถึง 104 ปี (เกิด พ.ศ.2429 มรณภาพ 2533) และบวชเป็นเณร ตั้งแต่ 8 ขวบ ไม่เคยด่างพร้อยในศีล ถือเป็นพระอริยสงฆ์ ที่ใครได้กราบไหว้บูชาจะเป็นสิริมงคลมาก

ความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน นั้น พ่อท่านคล้าย ได้ยกย่อง พ่อท่านคลิ้ง เสมอ และถ้ามีชาวบ้านจาก อ.ร่อนพิบูลย์ ไปกราบ ท่านก็จะบอกว่า “ไม่ต้องมาไกลถึงนี่หรอก ไปหาท่านคลิ้งนั่นแหละ ให้พรดีเหมือนฉัน” และ พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา ก็ยังกล่าวยกย่องเสมอ

เหรียญรุ่นนี้ นับเป็นหนึ่งในวัตถุมงคลของท่านที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย เพราะได้รับพระราชทาน พระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. ประดิษฐานไว้ด้านหลังเหรียญ

เหรียญฉลุ ฉลองพระชันษา 100 สมเด็จพระสังฆราชฯ วัดบวรฯ.
เข้า ไปดู สนามพระใหม่ ว่ามีรุ่นไหนจัดสร้างอย่างดีงามเหมาะสม ก็เจอ เหรียญฉลุฉลองพระชันษา 100 สมเด็จพระสังฆราชฯ ซึ่งตั้งแต่เปิดบูชามาก็มีกระแสแรงมาก

โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติของเจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราชฯ มีแต่คนถามหารุ่นนี้ ไปจองกันแน่นวัด

เพราะเป็นครั้งแรกในประวัติ ศาสตร์ ที่มีการจัดสร้างเหรียญฉลุแบบโบราณที่มีความงดงามมาก ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษกถึง 3 วาระ สองวาระที่วัดบวรนิเวศฯ ส่วนวาระที่ 3 ที่วัดสุทัศน์ เมื่อวันที่ 9 เดือน 9 พ.ศ. 2556

ใครจองทันก็โชค ดี เพราะเนื้อทองคำ ที่สร้าง 19 เหรียญ กับเนื้อเงิน เนื้อนวะอย่างละ 100 เหรียญ หมดแล้ว มีแต่เนื้อทองแดงฉลุ และเหรียญเปลือย ที่จัดสร้างอย่างละ 3,000 เหรียญ ก็ใกล้หมดแล้ว อยากได้รีบสอบถามที่คณะเหลืองรังษี วัดบวรฯ

พระพิมพ์สมเด็จวัดระฆังฯ ย้อนยุค แตกลายงา มูลนิธิพุทธคยา.
รายการที่สองมาจาก วัดระฆังฯ ที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ให้กำเนิด จักรพรรดิพระเครื่อง

ใน โอกาสที่มูลนิธิพุทธคยา โดยการสนับสนุนจากวัดระฆังโฆสิตาราม คณะ 9 ได้ดำเนินงานจัดสร้างรูปเหมือน ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) สูงรวมฐาน 41.9 เมตร ฐานหน้าตักกว้าง 23.9 เมตร เพื่อเทิดพระคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) และประดิษฐานในบริเวณ พุทธสถานมูลนิธิพุทธคยา อำเภอท่ายาง เพชรบุรี สถานที่ปฏิบัติธรรมศูนย์วิปัสสนาชินบัญชร เพื่อใช้ประกอบกิจกรรมทางศาสนา จึงจัดสร้างวัตถุมงคลสักการะ พระพิมพ์สมเด็จย้อนยุค ขึ้นเป็นครั้งแรกในรูปแบบดั้งเดิม แตกลายงา ด้านหลังประทับ ตราวัดระฆังฯ พร้อมเหรียญ รูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) เลี่ยมกรอบโลหะสีทองยกซุ้มพร้อมสวมใส

เนื้อหามวลสารศักดิ์สิทธิ์ มีทั้งว่าน ยา ผงวิเศษ จัดสร้างในรูปแบบพิมพ์ที่นิยม 10 พิมพ์ เช่น พิมพ์ใหญ่, พิมพ์นิยม, พิมพ์เจดีย์, พิมพ์สังฆาฏิ, พิมพ์เกศทะลุซุ้ม เป็นต้น และ พิมพ์พระประธานสมเด็จโต ซึ่งเป็นพิมพ์พิเศษในชุดนี้

ประกอบ พิธีพุทธาภิเษกไปเมื่อ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา และเปิดบูชาที่คณะ 9 วัดระฆังฯ และพุทธสถานมูลนิธิพุทธคยา

พระหลวงปู่ทวด ตะกรุด พ่อท่านฉิ้น วัดเมือง ยะลา รุ่น มหาทิพยมนต์.
สุดท้ายคือ หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด พ่อท่านฉิ้น วัดเมือง ยะลา รุ่น “มหาทิพยมนต์”

พระธรรมสิทธิมงคล (พ่อท่านฉิ้น ) เจ้าอาวาสวัดเมือง ยะลา สืบทอดพุทธาคมจาก พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ในยุคนั้นกล่าวกันว่า พระอาจารย์ทิม เป็นพี่ใหญ่ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว เป็นพี่กลาง และ พระมหาฉิ้น เป็นน้องเล็ก

เมื่อ พ.ศ.2505 ตอน พ่อท่านฉิ้น สร้าง หลวงปู่ทวด รุ่นแรก ก็ พระอาจารย์ทิม เป็นที่ปรึกษา แต่หลังจาก พ.ศ.2512 ที่ พระอาจารย์ทิม มรณภาพ การจัดสร้างพระเครื่องวัดเมือง ยะลา ก็ขาดตอนไป

มาปีนี้ ที่วัดเมือง ยะลา ได้รับการยกฐานะ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี จึงได้จัดสร้าง รุ่น มหาทิพยมนต์ เพื่อหาทุนสร้างวิหาร ประดิษฐานพระบรมรูปมหากษัตริย์ 4 ยุค คือ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และสมเด็จพระปิยมหาราช

ส่วนที่ พ่อท่านฉิ้น ให้ชื่อว่า รุ่น มหาทิพยมนต์ ก็เพราะเป็นพระคาถาที่ท่านได้รับการถ่ายทอดมาจาก พระอาจารย์ทิม นั่นเอง

หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด รุ่นมหาทิพยมนต์ ประกอบ ด้วย หลวงพ่อทวด, แหวน, ตะกรุดทิพยมนต์ และผ้า ประเจียด เปิดให้จองบูชาแล้ว

ก่อนแยกย้ายก็มีเรื่อง อัศจรรย์ของ ลุงสมควร ข้าราชการ เกษียณ มีบำนาญมาเดือนละ 2 หมื่น ก็ไม่พอส่งลูก 3 คนเรียนมหา’ลัย จึงคิดอยากเปิดร้านอาหาร เพราะเมียทําอาหารเก่ง

ก็เอาเงินเก็บที่มีอยู่ 3 ล้าน ไปซื้อตึกแถวทําเลดีๆ แต่พอรู้ราคา 5.5 ล้าน ก็นั่งเศร้า เพราะเงินไม่พอ กู้แบงก์ก็ไม่ได้เพราะอายุเกิน

จึงตัดสินใจจะขาย พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์สังฆาฏิ ที่พ่อให้ไว้เมื่อ 20 ปีก่อน แต่รู้สึกไม่สบายใจ เลยไปวัดระฆังฯ เอาพระสมเด็จใส่มือพนม อธิษฐานต่อหน้ารูปจําลองสมเด็จโต ขออนุญาตขายพระ และได้เงินพอซื้อตึก--พอออกจากวัด ก็เอาพระไปขายในสนามพระ 2-3 แห่ง เรียก 3 ล้าน แต่ไม่มีใครซื้อเกิน 2 ล้าน

ความอยากได้ตึก เลยไปดู 5 วันติดกัน วันสุดท้ายบังเอิญเจอเถ้าแก่เจ้าของโครงการชื่อ ทรงยศ เข้ามาถามว่า เห็นพนักงานบอกมาดูทุกวัน ถ้าสนใจซื้อจริงจะลดให้เป็นพิเศษ

ลุงสม บอกว่าสนใจ แต่เงินไม่พอ จะขายพระก็ได้ราคาไม่พอ

เสี่ย ทรงยศ เลยขอดูพระ พอเห็นแล้วก็ทำท่าตกตะลึงตกใจ ถามว่าจะขายเท่าไร พอบอก 3 ล้าน ก็บอกทันที ผมซื้อ ลุงสม สงสัย ทําไมซื้อง่ายจัง ได้รับคําตอบว่า ก็พระองค์นี้เคยเป็นของพ่อผมให้ไว้ตอนไปเรียนอเมริกา แต่ผมอยากได้รถ เลยขายให้คนไทยที่อเมริกาไป ตอนนั้นได้เงิน 3 แสน แต่ยังคิดถึงพระองค์นี้อยู่ เลยหมั่นไปไหว้สมเด็จโตที่วัดระฆังฯมา 10 ปีแล้ว ขอให้ได้พบพระองค์นี้หรือไม่ก็ถูกใจสักองค์ วันนี้ได้เห็นแล้วว่าปาฏิหาริย์ สมเด็จโต มีจริง ลุงบอกราคาแพงกว่านี้ก็ซื้อ

ลุงสมควร เลยพูดทีเล่นทีจริงว่า งั้นผมขึ้นราคาได้ไหม เสี่ยทรงยศ บอกว่าขึ้นไม่ได้ แต่ผมลดราคาตึกให้ 3 แสน ให้ลุงไว้เป็นทุนแต่งร้าน ลุงสมควร เลยตัดสินใจขาย แต่หยิบพระใส่มือพนมท่วมหัวอยู่นาน

เสี่ยทรงยศ เลยแซวว่าลุงอธิษฐานขออะไรอีก ตึกก็ซื้อได้แล้ว ลุงสมควร ยิ้มเจ้าเล่ห์ บอกว่าอธิษฐานขอให้ สมเด็จโต ช่วยให้ร้านอาหารขายดีมีกำไรมากๆ และมีเงินเหลือมานิมนต์ พระสมเด็จ องค์นี้กลับเจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.


--------------------
Go to the top of the page
 
+Quote Post

Reply to this topicStart new topic
มี 1 คน กำลังอ่านหัวข้อนี้ (บุลคลทั่วไป 1 คน และ 0 สมาชิกที่ไม่เปิดเผยตัว)
สมาชิก 0 คน คือ :

 




Lo-Fi Version ขณะนี้เวลา : 28th March 2024 - 07:39 PM