ยินดีต้อนรับ ( เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก )


watnongmuang.com

FAN PAGE!!

> อาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ ฆราวาสจอมขมังเวทย์
Witwatarun
โพสต์ Aug 5 2011, 05:03 PM
โพสต์ #1


Advanced Member
***

กลุ่ม : Root Admin
โพสต์ : 1,203
เป็นสมาชิกเมื่อ : 29-June 07
หมายเลขสมาชิก : 3



อาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ ฆราวาสจอมขมังเวทย์





ในเมืองไทยมีฆราวาสที่เชี่ยวชาญในเรื่องของคาถาอาคมอยู่หลายท่าน..สำหรับที่ยังคงมีช
ีวิตอยู่ในปัจจุบันนี้ชื่อของ...อาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ ก็เป็นอีกท่านหนึ่งที่มีการพูดถึงในปัจจุบัน..

โดยเฉพาะในเรื่องของ “เข็มทองคนองฤทธิ์” และ “เสน่ห์มอญ”... ผมเชื่อว่าเพื่อนๆที่สนใจในศาสตร์เหล่านี้ต้องรู้จักกันดี.. ผมและเพื่อนๆร่วมอุดมคติเดียวกันได้มีโอกาสไปเยี่ยมอาจารย์ประคอง ที่บ้านพักของท่านแถวๆซอยตากสิน และก็ตามประสาของคนที่ชอบเรื่องเครื่องรางของขลังละครับ การสนทนาจึงไม่ได้ออกไปนอกบริบทในเรื่องนี้เลย....







คำว่า”ไสยศาสตร์”หากเรามองกันอย่างหยาบๆ สามารถแบบออกได้เป็นสองอย่างคือ “ไสยขาวและไสยดำ” ....

ไสยศาสตร์ดำคือวิชาที่ใช้ในการกระทำความชั่ว ผิดศีลธรรมและสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น...ส่วนไสยศาสตร์ขาวคือวิชาที่ใช้ในเรื่อ
งที่ดี การกระทำความดี บรรเทาความเดือดร้อน..และที่สำคัญคือใช้ “กันและแก้” การกระทำจากไสยดำ..

วิชา“ไสยศาสตร์” มักจะถูกมองจากสังคมปัจจุบันว่าเป็นเรื่องงมงายไร้สาระ ไม่มีความเป็นเหตุเป็นผล แต่หากเรามานั่งคิดให้ดีแล้วจะพบว่า “ความเชื่อ และ ความศรัทธา”..







ในเรื่องไสยศาสตร์มีอยู่ในประเทศไทยมานานแล้ว เพื่อแต่ในปัจจุบันนี้ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และวิชาการสมัยใหม่ ทำให้บทบาทของไสยศาสตร์ลดลงอย่างมาก แต่จะอย่างไรก็ตามไสยศาสตร์หรือวิชาว่าด้วยคาถาอาคมก็ยังคงมีบทบาทและคงไว้ซึ่งอิทธิ
พลต่อสังคมไทยเสมอมา..





“ผมเรียนมาจากหลายอาจารย์”



อาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ ท่านเกิดวันเสาร์ที่ 7 แรม ๙ ค่ำ เดือนสิบ(ตุลาคม) ปีเถาะ พ.ศ.2482 มีภูมิลำเนาอยุ่ที่ฝั่งธนบุรี ย่าน ตากสิน ท่านได้ศึกษาชั้นปฐมที่วัดอินทรารามใต้ ตลาดพลู จากนั้นก็เรียนต่อชั้น ม.6 ที่โรงเรียนวัดชิโนรส และ จบการศึกษาครั้งสุดท้าย ที่ช่างกลพระนครเหนือ รุ่นที่ 1 พ.ศ.2500 ท่านเข้ารับราชการที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย และ ลาออกมารับบำนาญเมื่อ พ.ศ.2538 เพื่อมาดูแลคุณแม่ซึ่งป่วยอยู่ จนมารดาของท่านสิ้น หลังจากนั้น ท่านจึงบวชเพื่ออุทิศบุญกุศลให้แก่มารดาท่าน




อาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ สมัยบวชอยู่อินทรารามใต้ ตลาดพลู




ปัจจุบันท่านสึกเป็นฆราวาสแล้ว ปัจจุบันท่านมีอายุ ๗๑ ปี ท่านสนใจและชอบศึกษาในเรื่องของไสยเวทย์ เพราะเมื่อตอนเป็นเด็กท่านป่วยรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน หลายแห่งก็ไม่หาย จนมารดาท่านพาไปรักษาโดยไสยเวทย์ อาการป่วยก็หายเป็นปกติท่านจึงสนใจศึกษาด้านคาถาอาคม ประกอบกับอุปนิสัยชอบการต่อสู้ จึงมักหาของดีและวิชาอาคมไว้คุ้มครองตัว จึงไม่แปลกที่ในวัยหนุ่มของท่าน ทุกครั้งที่มีเวลาว่างท่านจะออกแสวงหาครูบาอาจารย์..





อาจารย์อุไร มนตรีกุล ณ อยุยา



จากที่ท่านเล่าให้พวกเราฟังจะมีทั้งพระเกจิอาจารย์และอาจารย์ที่เป็นฆราวาสหลายท่าน เช่น อาจารย์อุไร มนตรีกุล ณ อยุยา ซึ่งเป็นอาจารย์ฆราวาสวิชาสายวังหน้า วิชาที่เด่นๆ คือกระบี่กระบอง และการลงน้ำมันงาเพื่อความอยู่ยงคงกระพัน โดยเชื่อกันว่าผู้ที่มีน้ำมันดังกล่าวสามารถใช้น้ำมันตัวนี้ทาบาดเเผลเเล้วเเผลจะหาย
ในชั่วยาม ที่ตั้งของสำนักอยู่ในซอยสังขจาย เจริญภาสน์ ปัจจุบันได้เลิกไปแล้ว...







อาจารย์ปลูก วัดทิวไผ่ต้ำ หนองแค เรียนวิชาการต่อกระดูก ปัจจุบันยังคงมีลูกหลานของท่านอาจารย์ปลูก สืบทอดวิชาและเปิดรักษาแก่คนทั่วไป...
สำหรับวิชาการต่อกระดูกนี้ อาจารย์ประคองได้เล่าเรียนจนสำเร็จ สามารถใช้รักษาคนได้..ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมาท่านได้รักษาแก่คนไปแล้วเป็นจำนวนมาก

แต่การรักษาโดยวิธีต่อกระดูกนี้มีปัจจัยต่างๆค่อนข้างมาก เช่น ต้องใช้ระยะเวลาเพราะเป็นการรักษาแบบต่อเนื่อง จำเป็นต้องมีพักอาศัยชั่วคราวให้คนเจ็บ หรือบางทีก็เป็นเรื่องของคุณภาพของกระดูกซึ่งก็สัมพันธ์กับอายุ ฯลฯ..

ดังนั้นอาจารย์ประคองจึงไม่ได้เปิดรักษาแต่เรียนรู้เอาไว้เป็นประสบการณ์ของชีวิตว่า
วิชาการเหล่านี้มันมีจริง อีกอย่างการรักษาแบบนี้ท่านว่าเป็นการรักษาโดยใช้ “จิต” จึงเหมาะสมกับการรักษาเล็กๆน้อย...หากหนักๆจริงๆท่านว่าไปโรงพยาบาลจะสมควรที่สุด..







“ผมเคยถามตัวเองเหมือนกันว่า เราจะเรียนไปถึงไหน แต่พอมานึกๆอีกที ก็คนมันชอบ คนมันรักนี่นาจะให้ทำยังไง” (หัวเราะ)

หากมนุษย์เรามีชีวิตอยู่ได้เพราะปัจจัยสี่ และกับคนสมัยนี้ที่มีปัจจัยที่ห้าเป็นแพ็คเก็จเสริม เช่น รถยนต์ ฯลฯ แต่สำหรับอาจารย์ประคองแล้ว ปัจจัยที่ห้าของท่านคือ “วิชาอาคม” และมันก็มีมาตั้งแต่สมัยน้ำท่วมกรุงเทพครั้งแรกแล้วครับ...

อาจารย์ประคองต้องเดินทางโดยรถเมล์จากบางนา ไปบางพลี ขึ้นเรือเสต็ปที่ “คลองชวดลากข้าว” เข้าไปที่ “คลองราชาเทวะ” เพื่อไปขอเรียนวิชาจาก”อาจารย์อ๊อด สนั่นทุ่ง” ซึ่งปลูกบ้านพักอาศัยอยู่ในบริเวณวัดกิ่งแก้ว..

อาจารย์อ๊อด สนั่นทุ่ง เป็นฆราวาสอาคมขลัง ลูกศิษย์ของท่านหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว เดิมเป็นอาจารย์สักแต่ในช่วงที่อาจารย์ประคองไปเรียนวิชาได้เลิกสักแล้วและหันมาเป็น
“หมอประจำตำบล ที่ได้รับการแต่งตั้งจากทางการ”







การที่จะได้รับยกย่องว่าเป็น “ฆราวาสอาคมขลัง” ในสมัยนั้นไม่ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ ต้องผ่านการพิสูจน์ ชื่อเสียงของอาจารย์อ๊อด สนั่นทุ่ง เริ่มจากการ “ฉี่รดตอไม้” แล้วเรียกให้ทหารเข้าแถวยิง ปรากฏว่ายิงไม่ออก..

ซึ่งอาจารย์อ๊อด ได้สอนวิชานี้ให้อาจารย์ประคอง โดยเน้นที่ “จิต”และคาถาเพียงสองตัวเป็นองค์ประกอบคือ “โกกะ กะโก” ให้ภาวนาเดินหน้า ถอยหลัง สลับไปมา...
สำหรับวิชาด้านเสริมเสน่ห์ที่ถ่ายทอดให้คือวิชาการทำ “สีผึ้งเจ็ดร้าน” ซึ่งในชีวิตของอาจารย์ประคองเคยสร้างขึ้นเพียงสองครั้งและเมื่อเห็นว่าทำได้สัมฤทธิ์
ผลจึงได้เลิกทำ...ด้วยเหตุผลที่ว่า..
“ผมเห็นว่าเป็นวิชาที่ต้อง “กระทำต่อคนอื่น” จึงไม่เหมาะสม จะกลายเป็นบาปซะมากกว่า” (ยิ้ม)

ครับชีวิตของคนเราหากได้มองไปในทุกมิติแล้ว ภาพของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่สนใจและไขว้คว้าในเรื่องของศาสตร์ลึกลับที่ชื่อว่า”ไสยศาส
ตร์”จึงไม่ได้เป็นเรื่องที่เหลวไหลไร้สาระ

แต่กับเป็นมุมมองให้เราได้เห็นชีวิตของคนๆหนึ่งที่คงไว้ซึ่ง”ความชัดเจนของจิตใจ” และอย่างน้อยที่สุดเด็กหนุ่มคนนี้ก็รู้ตัวว่า “ตนเองรักและชอบอะไร”..

ซึ่งเขาก็ได้ดำเนินในเส้นทางนี้ต่อไปบนหนทางที่ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน...”ปู่วร ก้อนใบ” คืออาจารย์ฆราวาสอีกท่านหนึ่งของเด็กหนุ่มคนนั้น...





ปู่วร ก้อนใบ




ปู่วร ก้อนใบ เป็นชาวมอญ รูปร่างสูงใหญ่ ผิวขาว ไม่ดุ พูดจาดี สุภาพ ชัดถ้อยชัดคำ ลักษณะเฉพาะคือจะนุ่งโสร่ง พาดผ้าขาวม้า นิยมสูบยาเส้นที่มวนจากใบตอง แต่ไม่ทานเหล้า..

ซึ่งเรื่องนี้อาจจะเป็นเพราะว่า ปู่วร ท่านเคยได้รับการ “ลงกระหม่อม” จาก “หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ” จังหวัดพระนครศรีอยุธยา..

ผมคิดว่าหลวงพ่อสุ่นองค์นี้ เพื่อนๆที่สนใจในพระเครื่องย่อมรู้จักดีว่าท่านมี “กิติคุณและความศักดิ์สิทธิ์” ขนาดไหน หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของเมืองไทยก็เป็นลูกศิษย์ของท่าน...



อ่านต่อด้านล่าง


--------------------
อีกหนึ่งบริการใหม่ของเรา หนังสือพิมพ์กะฉ่อนดอทคอม ในหมวดพระเครื่อง

เพื่อให้เกิดความสดวกสบายสำหรับท่านสมาชิกผู้ใช้บริการของเรา หนังสือพิมพ์กะฉ่อนดอทคอม ทีมงานหนังสือพิมพ์กะฉ่อนดอทคอม จึงได้เปิดให้บริการใหม่ใน 4 หมวดคือ

1.วัตถุมงคลคณาจารย์ รุ่นต่างๆ(คลิ๊ก)
https://sacred.kachon.com

.....
2.ข่าววงการพระเครื่อง(คลิ๊ก)
https://publish.kachon.com

.....
3.ประวัติพระเกจิอาจารย์(คลิ๊ก)
https://monkhistory.kachon.com

.....
4.ประวัติวัดและพระพุทธรูป(คลิ๊ก)
https://historyoftemples.kachon.com


เป็น 4 หมวดที่เกี่ยวกับพระเครื่องโดยตรงในเว็ปกะฉ่อนดอทคอม ท่านสมาชิกสามารถใช้บริการของเราได้ในเว็ปเดียวโดยไปต้องย้อนกลับไปยังเว็ป https://pra.kachon.com อีกต่อไป ทีมงานหนังสือพิมพ์กะฉ่อนดอทคอม หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านสมาชิกจะได้รับความสดวกสบายและพอใจในบริการใหม่ของเราในครั้งนี้ความสดวกสบายและ
พอใจในบริการใหม่ของเราในครั้งนี้
Go to the top of the page
 
+Quote Post



Reply to this topicStart new topic
มี 1 คน กำลังอ่านหัวข้อนี้ (บุลคลทั่วไป 1 คน และ 0 สมาชิกที่ไม่เปิดเผยตัว)
สมาชิก 0 คน คือ :

 




Lo-Fi Version ขณะนี้เวลา : 28th March 2024 - 07:40 PM