คมเลนส์ส่องพระ 13 กรกฎาคม 2550, เมื่อวันอังคารที่ ๑๐ กรกฎาคม ที่ผ่านมา ศุภชัย เรืองสรรงามศิริ (ตี๋เหล้ ตัวเลือก

[Witwatarun]

คมเลนส์ส่องพระ 13 กรกฎาคม 2550


*** เมื่อวันอังคารที่ ๑๐ กรกฎาคม ที่ผ่านมา ศุภชัย เรืองสรรงามศิริ (ตี๋เหล้า ท่าพระจันทร์) ประธาน ชมรมพระเครื่องท่าพระจันทร์ และคณะกรรมการ แถลงข่าวเปิดตัวโครงการจัดสร้าง จตุคามรามเทพ รุ่น "เทวาสองหลักเมือง"

เพื่อนำรายได้มอบเป็นการกุศลแก่องค์กรต่างๆ อาทิ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล-คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์-เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร และครู ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้-ไถ่ชีวิตโค กระบือ ถวายเป็นพระราชกุศล-ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และจัดตั้งมูลนิธิชมรม เพื่อช่วยเหลือสาธารณกุศลในด้านต่างๆ จตุคามฯ รุ่นนี้มีทั้งแบบองค์บูชา เหรียญ พระเนื้อผง โดยเน้นในเรื่องของพิมพ์ทรงองค์พระ เนื้อหามวลสาร และพิธีกรรมที่สมบูรณ์ถูกต้องที่สุด โดยเปิดให้สั่งจองได้ตามศูนย์พระเครื่องชั้นนำทั่วไป สอบถามได้ที่ โทร.๐-๒๒๒๕-๒๕๕๖, ๐-๒๖๒๓-๕๗๗๙ หรือที่ www.thaprachan.com/

** ด้วยความที่เป็น "ศิษย์เก่าท่าพระจันทร์" ที่เคยเดินเข้าออก สนามพระท่าพระจันทร์ และบางครั้งก็ได้ใช้บริการไม่ว่าจะเป็นหาเช่าหรือให้เช่าพระเครื่อง ทำให้ พิศิษฐ์ เงาวิจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มเอสไอ แอดจัสติ้ง (ประเทศไทย) มีความผูกพันธ์กับ สนามพระท่าพระจันทร์ เป็นอันมาก เมื่อทราบข่าวว่า มีการจัดสร้าง จตุคามรามเทพ รุ่น "เทวาสองหลักเมือง" โดย ชมรมพระเครื่องท่าพระจันทร์ จึงได้สั่งจองบูชา ทันที ๕ ชุดกรรมการ และชุดทองคำอีก ๑ ชุด ทำเอา ชาวท่าพระจันทร์ ทั้งหลายปลาบปลื้มใจจริงๆ

** "คมเลนส์ส่องพระ" วันนี้ขอเริ่มที่ พระราหู หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง จ.นครปฐม อันนี้ น.พ.ทวีชัย จันทร์เพ็ญ ผู้บริหารโรงพยาบาลสิงห์บุรีเวชการ เพิ่งได้มาเมื่อเร็วๆ นี้ แล่ม จันท์พิศาโล โชคดีที่ได้มีโอกาสเห็นของจริง แม้ว่าจะไม่มีความชำนาญในด้านนี้ แต่ถ้าหากเป็น พระราหู เนื้อกะลาแกะสลัก อันนี้ บอกตามตรงว่า กล้าเช่าเอาไว้เหมือนกัน เพราะพิจารณาจาก ความเก่า และ ฝีมือการแกะสลัก แล้วต้องยกนิ้วให้ พระราหู อันนี้กว้าง ๒ ซม. สูง ๓ ซม. ด้วยเนื้อที่อันไม่มากนัก แต่ช่างแกะสลัก ซึ่งเป็นชาวบ้านธรรมดาๆ มีเพียงมีดแหลมคมอันเดียว ไม่มีเครื่องทุ่นแรงอะไรเลย แต่สามารถแกะสลักได้อย่างละเอียดลออ และประณีตสุดๆ อย่างนี้ ต้องขอยกย่องว่าเป็นฝีมือช่างชั้นบรมครูจริงๆ ด้านหลังเป็นรอยเหล็กจารลายมือ หลวงพ่อน้อย ซึ่งผู้ที่เคยพบเห็นมาก่อนจะจำลายมืออันนี้ได้อย่างแม่นยำ

** คุณหมอทวีชัย บอกว่า พระราหู กะลาตาเดียวแกสลัก อันนี้ได้มาจากชาวบ้านอ่างทอง ซึ่งบอกว่าเป็นสมบัติของคุณแม่ เพราะสมัยหนึ่งคุณแม่เคยอยู่รับใช้งานในครัวของวัดศีรษะทอง และได้รับ พระราหู อันนี้มาจากมือของ หลวงพ่อน้อย โดยตรง

** วัดพะนังตรา อยู่ในท้องที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เป็นวัดเก่าสร้างในสมัยลพบุรี เมื่อครั้งขอมเรืองอำนาจ ได้แผ่อำนาจมาถึงเมืองนี้ ทำให้มีวัตถุโบราณศิลปะลพบุรีปรากฏอยู่ที่นี่ด้วย รวมทั้ง พระเครื่อง พิมพ์ต่างๆ ที่ล้วนเป็นศิลปะสมัยลพบุรีทั้งสิ้น และเป็น กรุพระ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของ เมืองนครศรีธรรมราช พิมพ์ที่นิยมสูงสุด คือ พิมพ์พระนาคปรก ตัดกรอบเป็นรูปสี่เหลี่ยมทรงสูง มีทั้งเนื้อดินและเนื้อชินเงิน ลักษณะพิเศษของพระพิมพ์นี้ คือ มีองค์พระเล็กๆ อีกองค์หนึ่งประทับอยู่ที่ใต้ฐานนาค ซึ่งไม่ค่อยพบเห็นจากพระกรุเมืองอื่นๆ พระนาคปรก กรุพะนังตรา องค์นี้เป็นพระของ เต้ สระบุรี ผู้ชำนาญพระเนื้อดินผงยอดนิยม แต่เที่ยวนี้ล่องใต้ไปได้ ยอดพระนิยมของเมืองคอน มาครอบครอง อย่างนี้นับว่าเยี่ยมยุทธ์มากจริงๆ

** จ.พิษณุโลก เป็นเมืองแห่ง พระพุทธชินราช อย่างแท้จริง นอกจากจะมีองค์พระประธานที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ แล้วก็ยังมีประเภท พระกรุ อีกมากมายหลายกรุ เช่น พระพุทธชินราชใบเสมา ที่ได้รับความนิยมกันอย่างกว้างขวาง พระพุทธชินราช อีกกรุหนึ่งที่พบเห็นได้ยาก เพราะมีจำนวนน้อย คือ พระพุทธชินราช กรุลั่นทม เนื้อชินเงิน ที่เรียกเช่นนี้ก็เพราะว่า บริเวณที่ขุดพบพระกรุนี้มี ต้นลั่นทม ซึ่งอยู่ในเขตวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ นั่นเอง พระองค์เป็นของ วันชัย เอกสมบัติชัย

** พระหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท พิมพ์สี่เหลี่ยม ตัดชิดขอบ เนื้อสัมฤทธิ์ องค์นี้เป็นพระของ ยุทธนา ศิริมา นักธุรกิจผู้รับเหมางานก่อสร้างทุกชนิดใน กทม. และเป็นผู้ให้ความสนใจสะสมพระหลักยอดนิยมมาโดยตลอด

** อ.เกี๊ยก ทวีทรัพย์ ผู้ชำนาญเรื่องพระกริ่งพระรูปหล่อโบราณ บอกว่า การสร้างพระของ หลวงปู่ศุข ท่านจะหล่อหลอมเนื้อโลหะจนเหลว แต่เทลงแม่พิมพ์เป็นแผ่นบางๆ ซึ่งมีรูปองค์พระเป็นหลุมๆ ลักษณะเหมือนกับ ขนมครก ถ้าเป็น พระพิมพ์สี่เหลี่ยม ประภามณฑล พิมพ์หน้าใหญ่ พิมพ์หน้าเล็ก แม่พิมพ์เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมมีรูปองค์พระทั้งด้านกว้างและด้านยาวจำนวนหลายองค์ เมื่อเนื้อโลหะเย็นแล้วจึงเอาเลื่อยตัดแบ่งออกทีละองค์ ทำให้พระ ๒ พิมพ์นี้มีรอยเลื่อยตัดแบ่งตรงขอบทั้ง ๔ ด้าน

** ส่วน พิมพ์ตัดชิดขอบ แม่พิมพ์จะเป็นแผ่นเล็กแต่ยาว แบบ เส้นก๋วยเตี๋ยว ตัดหัวท้าย พิมพ์ตัดชิดมี ๓ เนื้อ นิยมสุงสุดคือ เนื้อเงิน มีน้อยมาก รองลงมาคือ เนื้อสัมฤทธิ์ และเนื้อทองฝาบาตร องค์ในภาพนี้ด้านหลัง หลวงปู่ศุข จะลงเหล็กจาร เป็นตัวพุทธล้อม

** หลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี เป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าที่มีวิชาอาคมขลัง ท่านได้สร้าง เหรียญหล่อ แบบโบราณเอาไว้ ๒ รุ่น เพื่อสมนาคุณแก่ผู้บริจาคทรัพย์สมทบทุนสร้างโบสถ์หลังใหม่ ในขณะนั้น เหรียญหล่อ รุ่นแรก สร้างปี ๒๕๐๗ รุ่นสอง สร้างปี ๒๕๐๘ พิมพ์ทรงคล้ายกัน คือเป็นรูปเสมาคว่ำ รุ่นแรก ไม่ได้ระบุ ปี พ.ศ. ที่ด้านหลังเหรียญ ส่วนรุ่นสอง มีระบุไว้ไว้อย่างชัดเจน เหรียญหล่อทั้ง ๒ รุ่นนี้ สร้างไว้น้อยจึงทำให้พบเห็นได้ยาก ราคาเช่หาอยู่ที่หลักหมื่นขึ้นไป เหรียญในภาพนี้เป็นของ ไพศาล ถิระศุภะ รอง ผอ.ฝ่ายวิจัยและพัฒนา โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง

** พร้อมกันนี้ ขอบอกบุญ มายังท่านผู้ศรัทธาสนใจ ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี และทำบุญวันคล้ายวันมรณภาพของ หลวงพ่อซวง อภโย ณ วัดชีปะขาว ต.พระงาม อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ในวันอาทิตย์ที่ ๒๒ กรกฎาคม นี้ เวลา ๑๐.๐๐ น. ปัจจัยที่ได้เพื่อสมทบทุนสร้างมณฑป สำหรับเป็นที่ประดิษฐาน สรีระของหลวงพ่อซวง ซึ่งท่านมรณภาพไปแล้ว ๓๔ ปี แต่สรีระของท่านไม่เน่าเปื่อยไปตามธรรมชาติ ยังคงความเป็นอมตะให้ลูกหลานชาวเมืองสิงห์บุรี และละแวกใกล้เคียงสักการบูชากราบไหว้จนทุกวันนี้

** วัดเทพนิมิตต์ (กุนุงอะยะ) อลอร์สตาร์ รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย สร้างขึ้นเมื่อปี ๒๕๑๕ โดยคณะกรรมการหมู่บ้านกุนุงอะยะ ที่มีเชื้อสายไทย- จีน นับถือศาสนาพุทธ ร่วมกันบริจาคเงินทุนซื้อที่ดินสร้างสำนักสงฆ์ขึ้นมาก่อน โดยมีพระอธิการลิ้ม จันทสาโร ต่อมาทางราชการมาเลเซีย อนุญาตให้ยกฐานะขึ้นเป็นวัด เมื่อปี ๒๕๓๐ ชื่อว่า "วัดเทพนิมิตต์" นับเป็นศูนย์รวมน้ำใจของชาวพุทธไทย-จีน ในรัฐแห่งนี้ ปัจจุบันวัดกำลังหาทุนบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะต่างๆ ภายในวัด และสร้างสะพานเข้าวัด จึงจัดสร้างวัตถุมงคล องค์หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด และองค์จตุคามรามเทพ รุ่น "อภิมหาเศรษฐี-อภิมหาเฮง" ประกอบพิธี ๕ วาระ ทั้งที่ในเมืองไทย และที่วัด สอบถามรายละเอียดได้ที่ สันติ บวรหฤทัย โทร.๐๘-๙๒๖๐-๓๑๓๒ วัดน้ำเดื่อใต้ จ.เพชรบูรณ์ โทร.๐๘-๕๑๘๙-๓๒๔๕

** จตุคามรามเทพ รุ่นใหม่ ที่สร้างออกมาในช่วง ๒-๓ ปีที่ผ่านมานี้ มี รุ่น "ประชาภิรมย์" จ.นราธิวาส รวมอยู่ในรุ่นที่ได้รับความนิยมระดับแนวหน้าอีกรุ่นหนึ่ง จตุคามรามเทพ รุ่น "ประชาภิรมย์" จัดสร้างโดยคณะของ อ.สาโรจน์ จันทโรจวงศ์, ด.ต.เฉลิม กาญจนสิทธิ์, ฉัตรชัย ศรีสกุลกานต์ และเพื่อนๆ ชาวนราธิวาส โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแจกทหารตำรวจและชาวบ้าน ในสามจังหวัดภาคใต้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ประกอบพิธีเมื่อเดือนกันยายน ๒๕๔๙ อ.ประจวบ คงเหลือ ศิษย์สายเขาอ้อ เป็นเจ้าพิธี สาเหตุที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เพราะจตุคามฯ รุ่นนี้มีรูปแบบที่งดงามประณีต มวลสารดี พิธีดี และเจตนาการสร้างดี ขณะนี้จะยังมีเหลืออยู่ที่ วัดประชาภิรมย์ อ.เมือง จ.นราธิวาส อีกหรือไม่ ก็ต้องสอบถามไปที่ นายดาบเหลิม โทร.๐๘-๙๘๗๐-๖๐๙๑

** นิตยสาร "พระท่าพระจันทร์" ฉบับใหม่ปก พระซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ พร้อมกับเรื่องประกอบในเล่ม โดย ม.ร.ว.อภิเดช อาภากร และภาพ พระซุ้มกอ แท้และสวยให้ชมอีกกว่า ๒๐ องค์

** นิตยสาร "อมตพระเครื่อง" จัดทำโดย ป๋อง สุพรรณ แชมป์แฟนพันธุ์แท้ (พระเครื่อง) มีภาพ พระแท้ นับพันองค์ให้ชมให้ศึกษากันอย่างจุใจ โดยเฉพาะ องค์จตุคามรามเทพ มีมากมายหลายรุ่น

** หนังสือเฉพาะกิจจากค่าย "คเณศ์พร" อีกเล่มที่นักสะสม จตุคามรามเทพ ต้องมีไว้เป็นคู่มือ คือ "ทำเนียบจตุคาม ๓๐๐ รุ่น" มีภาพสวยคมชัด พร้อมรายละเอียดของการจัดสร้างที่ชัดเจน วางตลาดแล้ว สอบถามได้ที่โทร.๐-๒๖๗๘-๐๕๖๔

** "คมเลนส์ส่องพระ" วันนี้มีเพียงเท่านี้ พบกันใหม่ในวันเสาร์และวันอาทิตย์ต่อไป...นะมัสเต ***

0 แล่ม จันท์พิศาโล 0