อาจารย์ประคองเล่าให้พวกเราฟังว่า ท่านได้ไปหาปู่วร ก้อนใบ ในช่วงที่ปู่วร มีอายุเกือบจะร้อยปีแล้ว..และตาบอด ปู่วรเป็นฆราวาสที่มีอาคมเข้มแข็ง เรียกว่า เก่งเลยทีเดียวครับ
ท่านมีชีวิตที่คลุกคลีกับการเป็นหมอไสยศาสตร์ ทำของแบบรับรองผลได้เลย ไม่ใช่ประเภทสุกเอาเผากิน เวลาที่อาจารย์ประคอง จะเข้าไปเรียนมักจะซื้อ ขนมเปี๊ยะ ขนาดใหญ่อันละร้อยบาท(สมัยนั้น)ไปฝาก ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของปู่วรมาก ทำให้อาจารย์ประคองได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมมามากมาย...
ตะกรุดเสน่ห์มอญ
อาจารย์ประคองได้วิชาที่ได้รับนำมาจัดสร้างเครื่องรางให้กลุ่มลูกศิษย์ไว้ใช้กัน คือ ตะกรุดมอญ หรือชื่อที่กลุ่มลูกศิษย์นิยมเรียกกันคือ เสน่ห์มอญ และ สีผึ้งสามสี..
และด้วยความที่ปู่วรท่านชอบทานขนมเปี๊ยะนี่เอง เวลาประกอบพิธีไหว้ครูหรือลูกศิษย์ท่านใดจะขอความช่วยเหลือจากปู่วร จึงจะใช้ ขนมเปี๊ยะ เป็นเครื่องบูชา ถึงอาจารย์ประคองจะได้วิชาต่างๆมามากแต่ปู่วรมักจะบอกท่านเสมอว่า....ทุกอย่างสำเร็จ
ด้วย จิต..และ..
คนที่เก่งจริง เก่งอย่างเดียวก็พอแล้ว ไม่ต้องไปเก่งทุกอย่าง
ว่ากันว่า ตามีไว้มอง แต่หัวใจต่างหากที่มีไว้เห็น...ครับถึงชีวิตของปู่วร จะค่อนข้างขัดสนลำบาก เช่าบ้านอยู่ ต้องอาศัยหลานสาวช่วยคอยดูแล และเหลนที่ชื่อ นายชา ขับรถสามล้อหารายได้เลี้ยงครอบครัว..
ปู่วรท่านได้ช่วยเหลือครอบครัวโดยอาศัยวิชาไสยศาสตร์ที่ได้เล่าเรียนมา ที่ทำประจำคือ การถอนของ ถอนคุณไสย์และการตั้งศาล ถอนศาล เล่าลือกันว่าหากบ้านใดได้ปู่วรไปทำพิธีให้ละก็จะนำมาซึ่งความสงบสุข...
ในการขอเรียนวิชาครั้งนี้...อาจารย์ประคองท่านได้เทียวไปเทียวมาอยู่เกือบสามปี ปู่วร ก้อนใบ ก็ได้ถึงแก่กรรม อาจารย์ประคองท่านได้เป็นธุระจนเสร็จสิ้นที่ วัดในสองวิหาร จ.สมุทรปราการ
ภายหลังที่ปู่วร สิ้น ตำราต่างๆก็มีพระซึ่งไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดแอบมาเก็บไป นายชา ซึ่งเป็นหลานชายได้ย้ายจากบ้านเช่า นัยว่าปัจจุบันนี้ได้ไปพักอาศัยอยู่แถวๆเส้นทางสายเก่าที่จะไปจังหวัดชลบุรี....และก
็เป็นความจริงที่ว่าสิ้นสุดปู่วร ก็ไม่มีทายาทสืบต่ออีกเลยนอกจากอาจารย์ประคอง..
หลวงปู่ พิมพ์มาลัย วัดหุบมะกล่ำ ต้นตำรับแห่ง เข็มทองคนองฤทธิ์
เป็นที่ทราบกันว่าอาจารย์ประคอง ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่พิมพ์มาลัย มาลโย อดีตเจ้าอาวาสวัดหุบมะกร่ำ ที่ได้ถ่ายทอดวิชา เข็มทอง ซึ่งเป็นศาสตร์ลึกลับที่เน้นในเรื่องของการภาวนา พุทโธ ถือว่าเป็นแนวทางของวิชานี้ (รายละเอียดผมเคยเขียนไว้แล้ว หากสนใจลองย้อนกลับไปอ่านได้ครับ)
ถึงตรงนี้..ผมขอแทรกเกร็ดไว้นิดครับ อาจารย์ประคองบอกว่าวิชา เข็มทอง ท่านได้ถ่ายทอดให้กับ พระอาจารย์หนุ่ม วัดบางแวก และ อุณมิลิต...
ผมจึงคิดว่าหากเพื่อนๆ ท่านใดสนใจอยากจะรู้ รายละเอียดที่ลึกมากกว่านี้ให้ลองสอบถามจากทั้งสองท่านนี้จะดีกว่า
เพราะเรื่องเข็มทองเป็นวิชาที่ซับซ้อนเหลือกำลังและผมเองก็มีความรู้เพียงชั้นอนุบาล
เท่านั้น อีกอย่างวิชา เข็มทอง จะได้มีการขยายวงไปในแนวทางเดียวกันและถูกต้องชัดเจนน่ะครับ...
จริงๆแล้ว ครูบาอาจารย์ที่ท่านอาจารย์ประคองได้ไปขอศึกษายังมีอีกหลายท่านครับ เช่น หลวงพ่อจ่าง วัดหัวเสือ หลวงปู่เมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา หลวงปู่เมฆ วัดลำกระดาน หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ ฯลฯ
พระอาจารย์หนุ่ม(ลูกศิษย์อาจารย์ประคอง) วัดบางแวก
ซึ่งอาจารย์ประคอง ก็ได้เล่าให้พวกเราฟัง เพียงแต่ว่า หากผมเอามาเขียนจนครบคาดว่าผมคงจะต้อง หมดลม ซะก่อน...เอาแค่พอหอมปากหอมคอละกันครับ...
สภาพของสังคมในปัจจุบันทำให้คนเราต้องตั้งกติกาในชีวิต มีคำพูดที่เราเคยได้ยินอยู่บ่อยๆ กฎมีไว้แหก กติกามีไว้ละเมิด เรื่องดังกล่าวนี้ยังลามไปถึงไสยศาสตร์ที่มีกฎเหล็กว่า ต้องมีศรัทธา และห้ามสงสัย ดังนั้นข่าวคราวการลองของจึงมีขึ้นเป็นประจำ....
วิชาต่างๆ ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เข็มทองก็ไม่ร้อย..
เรื่องนี้มันพูดยาก มีปัจจัยจากหลายสาเหตุ เหนียวไม่เหนียวมีองค์ประกอบหลายอย่าง...
หนึ่งคือผู้ทำต้องเข้มแข็ง สองคือผู้รับต้องปฏิบัติดี.....
เข็มทองมันแปลก มันพูดไม่ได้แต่มันสร้างสำนึกให้คนได้ เข็มทองจะเข้มแข็งหรือไม่อยู่ที่คน ปฏิบัติได้ก็อยู่ ปฏิบัติไม่ได้ก็ไป
ผมไม่เห็นด้วยกับการลอง คนที่นับถือส่วนมากแล้วเขาจะไม่ลองกัน แต่ของน่ะมีจริง..
เขาไม่ได้สร้างไว้ให้ทดลอง เขามีไว้ให้เป็นกำลังใจ
อีกอย่างการลองของต้องรู้หลัก ไม่อย่างนั้นจะทำให้ผิดพลาดได้ คนที่เขารู้จริงจึงลองแค่นิดเดียวพอเป็นสังเขป ของที่อยู่กับตัวต้องสัมพันธ์กับวาระจิต...ถ้ารวบรวมได้ก็จะมีพลังงานมาก
ผมเคยเห็นคนทดลองฟันหน้าท้องแล้วบอกไม่เข้า อันนั้นมันธรรมดา การฟันหน้าท้องมันมีตัวช่วยเยอะ แน่จริงลองฟันหัวหรือหน้าแข้งดูซิ แล้วจะรู้(หัวเราะ)
ครับกระแสการลองของ หากเรานั่งพินิจพิจารณาแล้ว จะทำให้เรามองเห็นสิ่งที่ซ้อนเร้นอยู่ลึกๆในใจของคนไทยทุกวันนี้ ไม่มีอะไรน่าหวาดกลัวมากไปกว่าความตาย ไม่ได้กลัวตายเพราะการอดอาหารหรือไม่มีจะกิน แต่เป็นความกลัวว่าจะตายโดยสาเหตุอื่นมากกว่า...
ผมเชื่อครับ..และคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องลองของ คำว่า ลองของ กับลองพิสูจน์ ต่างกันนะครับ..
ลองพิสูจน์เขาทำกันแค่นิดหน่อยเอาพอรู้ แต่ลองของมักจะทำกันแบบเอาเป็นเอาตาย เป็นต้นว่าลองยิง ลองฟัน..ครูบาอาจารย์แต่โบร่ำโบราณท่านมักจะสั่งสอนลูกศิษย์ว่า การลองของทุกอย่างถือว่าเป็นการ ดูถูกวิชา ดูถูกศรัทธา...
คุณพระคุณเจ้ามีจริง ของขลังมีจริงและจะปรากฏผลในยามมีเหตุเภทภัยหรือเหตุจวนตัว..อาจารย์บางท่านถึงขนาดส
าปแช่งกับผู้ที่ลองของกับวัตถุมงคลที่ท่านสร้าง..
เพื่อนๆลองถามใจตัวเองดูซิครับว่าทำไปเพื่ออะไร เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น เพิ่มความศรัทธาเหรอครับ...สำหรับผมแล้วเชื่อว่า
ความศรัทธาเป็นสิ่งที่เราได้มาเปล่าๆ โดยไม่ได้ขโมยใครมา..
เอาแค่พอเหมาะ พอดีกับชีวิตเราเป็นที่ตั้งก็คงพอแล้วมังครับ...
พระพุทธเจ้าของเราท่านโปรดเทศนาสั่งสอนโลกมาสองพันกว่าปีแล้ว.. บอกให้พวกเราต้องพึ่งตัวเอง ต้องค้นหาสัจจะแห่งชีวิตด้วยสติปัญญา..
การเคารพบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่เรื่องผิด แต่บูชาแล้วต้องหมั่นเตือนตัวเองด้วย...
ว่ากันว่า..ระหว่างการเป็น คนมีชื่อเสียง กับการเป็น คนธรรมดา มีเส้นใยบางๆคั้นกลางอยู่ มันก็ช่างบังเอิญเสียเหลือเกินที่ ด้ายเส้นนี้มีอยู่ในตัวตนของอาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ
อาจารย์ฆราวาสที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน ฆราวาสผู้มีฝีมือในการสร้างวัตถุมงคลที่เข้มขลังและเชียวชาญในศาสตร์ เข็มทอง ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ลึกล้ำและแหวกแนว จนได้รับการยอมรับของผู้ที่มีคติความเชื่อในด้านนี้ แต่ชื่อเสียงของท่านก็มีมากพอๆกับการเป็น คนธรรมดา ที่เราสามารถพบเห็นทั่วไปตามท้องถนน...
ความเป็นจริงก็คือว่า..อาจารย์ประคอง ท่านชอบใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบภายในบ้านพัก ยามเสร็จจากการปฏิบัติภารกิจประจำวัน จะใช้เวลาหมดไปกับการหมั่นภาวนา เจริญสมาธิ เพราะเรื่องเหล่านี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างความแข็งแรงของ จิต และเป็นหลักสำคัญยิ่งของศาสตร์สายเข็มทอง..
คนในละแวกซอยตากสิน ไม่มีใครรู้เลยว่าชายชราท่านนี้คืออาจารย์ไสยศาสตร์ที่มีชื่อ แต่เมื่อไหร่ที่ท่านไปอยู่ในเขตซอยพาณิชย์ธนฯ หรือวัดบางแวก เราจะได้ยินคำว่ากล่าวทักทายจากชาวบ้านทุกหลังและการกล่าวถึงท่านในฐานะ อาจารย์
โลกเปลี่ยนไปมากแต่ก็ยังคงหมุนรอบตัวเองอยู่ทุกวัน..ก่อนพวกเราและอาจารย์ประคองจะแย
กย้ายกันกลับบ้านเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละคน ในฐานะ พี่ชาย ของตระกูลรุ่นเจริญ ฐานะ เฮียกวง ของชาวรามคำแหง หรือผมในฐานะ เด็กติดตาม....สิ่งที่อาจารย์ประคองตอกย้ำกับพวกเราก็คือ...
ของทุกอย่างไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ให้เชื่อมั่นในตนเอง หมั่นบูชาในพระรัตนตรัย เคารพในครูบาอาจารย์..
ใช้วิจารณญาณ พิจารณาเรื่องต่างๆอย่างมีสติให้รอบคอบ..
เพราะเรื่องไสยศาสตร์ ถึงจะไม่แน่นอน แต่มีจริงและหากไม่มีประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัว มันเชื่อยาก....
ครับ..ศรัทธา..นั้นอยู่ที่ใจ ไม่ได้อยู่ที่เหนียวหรือไม่เหนียว ถูกหรือแพง ผลอยู่ที่เหตุ.....ลองว่าถึงขนาดต้องเอาการลองของมาพิสูจน์ความมีศรัทธาซะแล้ว... ก็ไม่รู้ว่าจะไปเอาสติปัญญาที่ไหนมาแก้ปัญหาที่มันยากกว่าเรื่องนี้อีกหลายเท่า....
..สวัสดีครับ
ขอขอบพระคุณข้อมูลดีๆ
จากคุณ ศิษย์กวง
ขอเชิญร่วมงานบูชาครูศิษย์เข็มทอง ณ.วัดบางแวก วันอาทิตย์ที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๔เวลา ๐๗.๒๙ น. อ่านโองการบวงสรวงเทพยดา ท้าวมหาราชทั้ง๔
เวลา ๐๙.๐๐ น.ร่วมถวายผ้าป่าสามัคคีฯ
เวลา ๐๙.๑๙ น.อ่านโองการสรรเสริญคุณครูบูรพาจารย์
เวลา ๑๐.๒๙ น. ครอบเศียรพ่อแก่
เวลา ๑๒.๐๐ น. เริ่มพิธีฝังเข็มทองคะนองฤทธิ์ ๑๐๘ ชุด (เศก๑ปี)
ฝังตระกรุดมอญสารพัดดี (น13+) ๑๐๘ ดอกตำรับปู่วร ก้อนใบ
ฝังตระกรุดดรุณีใจอ่อน (น18+) ๑๐๘ ดอกตำรับหลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม
ฝังตระกรุดร้อนเยาวมาลย์(น20+) ๑๐๘ ดอกตำรับเสด็จในกรมฯ
หลวงปู่ธีร์ สุวณฺโณ วัดจันทราวาส หลวงพ่ออภิญญา คณุตฺตโม วัดบางพระ อาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ
เมตตาปรกในพิธี ครอบเศียรพ่อแก่ ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ดอกพิกุล พร้อมทั้งแจกวัตถุมงคลที่ระลึก
แก่ทุกท่านที่มาร่วมงาน บูชาพานครูร่วมพิธี ๙๙ บาท ลงชื่อร่วมฝังเข็มทองชุดละ ๕๐๐ บาท ตระกรุดทองคำ
ดอกละ ๕๐๐ บาท(ทุกชนิด) อ.ประคอง รุ่นเจริญ แจกตระกรุดมหาเสน่ห์มอญ (จารมือ) แก่ผู้ที่ร่วม
ทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีฯ รับบัตรคิวทุกรายการตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ น เฉพาะวันงานเท่านั้น