ฮวงจุ้ยกับการตกแต่งบ้าน





แสง

ภายในบ้านควรมีแสงสว่างอย่างพอเพียง บริเวณพื้นที่นอกตัวบ้านหรือภายในสวนก็ควรมีแสงสว่างมากๆ ในยามค่ำคืน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะใช้ไฟในบริเวณนอกบ้านน้อยมากหรือไม่ใช้เลย ทำให้บริเวณรอบบ้านดูมืดอึมครึม แต่ถ้าเปิดไฟไว้บริเวณนอกตัวบ้านหรือภายในสวน ก็จะกระตุ้นความเจิดจ้าและความมีชีวิตชีวาให้แก่ผู้คนในบ้านนั้น

แต่ในตัวบ้านไม่ต้องใช้ไฟปริมาณมากเกินไปจนสว่างจ้า เพราะจะส่งผลให้ประสาทตาต้องทำงานหนักเกินไป แสงไฟควรนุ่มนวลพอดี และไม่มืดหม่นสลัวลางเกินไป

ไฟที่มีแสงออกแกมสีเขียวด้วยนั้น ไม่ควรนำมาติดไว้ในบ้านเด็ดขาด ! เพราะเวลาแสงไฟส่องต้องใบหน้าคนในบ้านแล้วจะดูเหมือนใบหน้าคนตายไร้สีเลือด

ไฟที่มีรูปทรงเป็นโคมระย้า ก็ถือว่าเป็นรูปทรงที่ดี เพราะทำให้ชี่ที่รุนแรงกระจายตัวออกไปอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรแขวนไว้ในตำแหน่งที่ต่ำจนเกินไป





กระจกเงา

กระจกเงาช่วยแก้ไขฮวงจุ้ยให้ดีขึ้นได้ แต่ก็ต้องติดไว้อย่างถูกที่ถูกทางด้วย จึงจะส่งผลดีให้แก่ผู้อยู่อาศัย

หากนอกบ้านมีสระน้ำหรือแม่น้ำ เราควรติดกระจกเงาที่ผนังในตำแหน่งซึ่งกระจกเงาสามารถสะท้อนภาพของแม่น้ำได้ คือ ดึงเอาภาพของน้ำมาไว้ในห้องนั่นเอง

การแขวนกระจกเงาไว้บนผนัง ไม่ว่าเพื่อแก้ไข หรือเสริมกรณีใดก็ตาม ที่ถูกต้องก็คือ จะต้องแขวนไว้ในระดับที่ไม่สูงจนเกินไป หรือต่ำกว่าระดับศีรษะของคนในครอบครัว

กระจกเงาช่วยให้ห้องเล็กๆ ดูกว้างขึ้นและสว่างขึ้น อีกทั้งยังสะท้อนพลังงานของชี่ให้กระจายออกมา

แต่ว่าตำแหน่งของกระจกเงาที่จะส่งผลร้ายให้มี ก็เช่นกัน เป็นต้นว่า เมื่อคุณกลับเข้าบ้าน ทันทีที่ก้าวเาเข้าประตูหน้าบ้าน แล้วเห็นเงาของตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจกบานใหญ่ ซึ่งติดไว้ที่ผนัง เช่นนี้ก็ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะกระจกเงาตรงนั้นจะสะท้อนเอาพลังที่ดี โชคลาภที่ดีกลับออกไปหมด

และการติดกระจกเงาหลายๆ บานในห้องเดียวกันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะภาพที่สะท้อนจะทำให้ดูเหมือนว่ามีเงาผู้คนเต็มไปหมดในห้องนั้น ส่งผลร้ายต่อระบบประสาทและสุขภาพจิต ทำให้ป่วยไข้ไม่สบายได้ง่ายๆอีกด้วย




สี



ตามหลักจิตวิทยาและทฤษฎีสีนั้นก็บ่องบอกอยู่แล้วว่า สี มีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึกของคนเราอย่างมาก



สีมีผลทำให้ผนังของห้องเย็นลงหรืออบอุ่นขึ้น หากจะใช้สีให้ถูกต้องจริงๆ ก็ต้องพิจารณาดู ธาติ ของเจ้าขอห้องกับห้องด้วยอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นคนธาตุน้ำ และคุณใช้สีอ่อนกับห้องของคุณ ก็จะนับว่าสมดุลกันยิ่ง



หรืออีกนัยหนึ่งอาจอิงที่ฤดูกาลก็ได้ ผู้ที่เกิดในฤดูหนาว อาจใช้สีสว่างๆ อย่างสีชมพู สีเขียวจัด กับห้องนอนของตน ผู้ที่เกิดในฤดูหนาว อาจใช้สีสว่างๆ อย่างสีชมพู สีเขียวจัด กับห้องนอนของตน ผู้ที่เกิดในฤดูร้อน อาจใช้สีฟ้าอ่อนหรือสีตองอ่อนก็เหมาะสม



แต่การใช้สีเดียวกันหมดทั้งบ้าน รวมทั้งเครื่องเรือนต่างๆ เป็นต้นว่า ม่านก็สีเขียวทั้งบ้าน พรมก็สีเขียว โซฟาก็เขียว ผ้าปูที่นอนก็เขียว ผนังห้องก็เขียว อย่างนี้เป็นเรื่องของความชอบความพอใจแต่ไม่ถูกต้องแน่นอน เพราะภายหลังคุณจะรู้สึกถึงความอ่อนเพลียและหมดความกระชุ่มกระชวยลงโดยไม่รู้สาเหตุ ดังนั้นการพิจารณาอิทธิพลของสีกับธาตุหรือวันเกิดของเจ้าของห้องก่อนก็จะเป็นการดี




สีแดง คือสีอันเป็นมงคลในหมู่ชาวจีน และหมายถึงความร่าเริงในทางสากล
สีม่วง คือสีที่แสดงความรู้สึกเคารพนอบน้อม
สีเหลือง คือสีของดวงตะวัน หมายถึงความรุ่งเรืองและอายุยืน
สีเขียว คือสีของอารมณ์ริษยา สีแห่งความสงบ-สดชื่น
สีขาว คือสีแห่งความหดหู่ในหมู่ชาวจีน แต่หมายถึงความบริสุทธิ์ ในทางสากล



แม้ว่าคุณจะเป็นคนที่ชอบสีขาวมากจนทาผนังห้องทุกห้องเป็นสีขาวและเครื่องใช้เครื่องเ
รือนทั้งหมดเป็นสีขาวก็ตาม ควรจะเพิ่มสีสันอื่นบ้าง เพื่อสร้างความสดใจและส่งผลดีต่อจิตใจซึ่งแตกต่างกับสีขาวล้วนๆ เพียงสีเดียว





ภาพเขียน

การประดับฝาผนังบ้านด้วยภาพเขียน นอกจากจะให้ความงดงามต่อสายตาแล้ว ยังส่งอิทธิพลอันดีถึงภายในบ้านอีกด้วย



ภาพวิวทิวทัศน์อันร่มรื่นก็จะช่วยให้บรรยากาศในบ้านอบอุ่นเหมือนฤดูใบไม้ผลิ ภาพแห่งธรรมชาติที่มีสายน้ำ โขดหิน และก้อนเมฆ ภาพทิวไม้และท้องฟ้าก็ถือว่าเป็นภาพที่ดีเช่นเดียวกับภาพวาดดอกไม้และไม้ยืนต้น ถือว่าแทนความมีโชคและความคงทนยั่งยืน



ภาพของเทพ ควรเป็นเทพที่คุ้มครองผู้คนจากปีศาจด้วย





ลวดลาย



ลวดลายต่างๆ นั้นเป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมายในตัวเอง ลวดลายบนกระเบื้องปูพื้น หรือลวดลายบนวอลเปเปอร์ หรือลวดลายบนริมผ้าม่านหรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ หากเลือกให้ดีจะส่งผลดีตามความหมายของตัวมันเอง




กวาง สัญลักษณ์ของความมั่งมี ร่ำรวย
กระดองเต่า สัญลักษณ์ของความมีอายุยืนนาน
B> สัญลักษณ์ของสติปัญญาและความแข็งแรง
แจกัน สัญลักษณ์ของความสงบสุข
ดอกเบญจมาศ สัญลักษณ์ของความยั่งยืนคงทน
ดอกไม้ สัญลักษณ์ของความสดชื่น มั่งมีศรีสุข
เมฆ สัญลักษณ์ของสติปัญญาและพรสวรรค์
มังกร สัญลักษณ์ของอำนาจ
เหรียญ สัญลักษณ์ของความมั่งมีศรีสุข
บัว สัญลักษณ์ของความซื่อตรงและคงทน
ปลา สัญลักษณ์ของความเยือกเย็นและความสำเร็จ


เสียง

ภายในบ้านหรือบริเวณบ้านควรมีเสียงที่ไพเราะ และดังพอประมาณ ไม่ดังเกินไปจนกลายเป็นเสียงที่รบกวน

การประดับระฆังเล็กๆ หรือกระดิ่งนั่นเป็นการปรับปรุงแก้ไขที่ดีประการหนึ่ง

เนื่องเพราะพลังงานชี่ที่เฉื่อยจะสลายไปโดยการกระทำของเสียงดนตรีที่ล่องลอยมาในสายล
ม เป็นการกระตุ้นสภาพอากาศที่หยุดนิ่งให้มีการเคลื่อนไหว ส่งผลให้มีความรื่นรมย์และเกิดความสุขสงบในครอบครัว

สิ่งประดับมงคล

การตั้งตุ๊กตา ฮก ลก ซิ่ว 3 เทพที่ให้สิริมงคลก็เป็นที่นิยมดีเช่นกัน แต่ควรตั้งไว้โดยหันหน้าเทพทั้ง 3 เข้าหาเก้าอี้ในห้องรับแขกหรือตะอาหาร ไม่ควรตั้งประดับไว้โดยหันหน้าเข้าหาประตูบ้านเด็ดขาด

และจะต้องคอยปัดฝุ่นเสมอๆ อย่าให้ฝุ่นจับเพราะจะทำให้เสียความเป็นมงคล จากความหมาย 3 เทพ คือ ฮก หมายถึงทรัพย์สิน โชคลาภ ลก คือยศศักดิ์ ซิ่ว คืออายุ

ม้า นกยูง ก็ถือเป็นสัตว์มงคลที่ให้ความสง่างามน่าเกรางขามแก่ห้องนั้นๆ ได้

สิงโต ช้าง ก็เป็นสัตว์มงคลที่ให้พลังอำนาจและความแข็งแกร่ง

เขาวัว เขาควาย ก็เป็นสิ่งประดับที่แสดงถึงความแข็งแรง แต่ไม่เหมาะจะประดับในบ้านที่มีเด็กๆ เพราะเป็นสัตว์แห่งความดุร้ายอาจส่งผลในทางลบ เช่น เกิดความรุนแรงในครอบครัว แต่อาจใช้ประดับในร้านค้าที่มีการแข่งขันกันสูง สิ่งประดับประเภทนี้ควรแขวนในตำแหน่งที่ห่างจากห้องน้ำและห้องครัวพอสมควร


ตู้ปลา

การใช้ตู้ปลาหรืออ่างเลี้ยงปลา ก็นับเป็นศิลปะการตกแต่งบ้านที่ถูกกับหลักฮวงจุ้ยมากทีเดียว เพราะเป็นทฤษฎีของ การสร้างสิ่งมีชีวิตให้เคลื่อนไหวในความสงบนิ่ง

ปลาเงิน ปลาทอง ให้ความหมายที่ดีเพราะเป็นสัญลักษณ์ของทรัพย์ และยังเป็นสัญลักษณ์ของการปัดเป่าพลังชั่วร้ายให้พ้นผ่านไปอีกด้วย

อ่างปลาหรือโถแก้วใบใหญ่ที่มีลักษณะเป็นทรงกลม ถือว่าเป็นรูปทรงที่ดีที่สุด ตู้ปลาควรมีปั๊มลมเพื่อให้ภายในตู้มีการเคลื่อนไหวของน้ำ มิใช่อยู่ในลักษณะ น้ำตาย

การเริ่มเลี้ยงปลาในครั้งแรก มีจำนวนปลาเท่าใดก็ควรรักษาระดับจำนวนนั้นไว้ ไม่ควรให้ลดลง ควรให้เพิ่มขึ้นจึงจะถือว่าดี หากมีปลาตายก็ต้องรีบช้อนออกทันที

ถ้าจะถือเล็ดตัวเลข ก็ควรเลี้ยงปลาจำนวน 9 ตัว ก็จะเป็นมงคล

แต่คนธาตุไฟ ไม่ควรตั้งตู้ปลาไว้ในบ้าน และคนธาตุน้ำก็ไม้จำเป็นต้องเลี้ยงปลา เพราะในตู้ปลามีน้ำและตัวเองก็เป็นธาตุน้ำอยู่แล้ว คนธาตุอื่นๆ จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะเลี้ยงปลาสักตู้หนึ่งเพื่อเสริมโชคและสิริมงคล