ยินดีต้อนรับ ( เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก )


watnongmuang.com

FAN PAGE!!

> ประวัติหลวงปู่ชื่น วัดตาอี +วัตถุมงคล สุดยอดพระเกจิอจารย์อีสานใต้, รีบหาเก็บกันครับอนาคตของแพงแน่ๆๆ
อิทธิปาฏิหาริย์
โพสต์ Nov 16 2007, 02:18 AM
โพสต์ #1


Advanced Member
***

กลุ่ม : สมาชิกลงทะเบียน
โพสต์ : 253
เป็นสมาชิกเมื่อ : 29-October 07
หมายเลขสมาชิก : 236



ประวัติ หลวงปู่ชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์

สงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เกิดกลียุคทั่วโลก ยิ่งประเทศเล็กประเทศน้อยได้รับผลกระทบมากที่สุด นอกจากข้าวยากหมากแพงแล้ว ประชาชนยังต้องรับกรรมหนักเพราะครอบครัวแตกสลายเนื่องจากความแร้นแค้นยากจนเป็นสาเหต
ุใหญ่
ครอบครัวของ หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ ซึ่งเป็นชาวกัมพูชาก็ได้รับความรุนแรงของไฟสงครามเช่นเดียวกัน ทำให้ญาติพี่น้องของหลวงปู่ชื่น ลับหายตายจากไปหลายคน ซึ่งประเทศกัมพูชาขณะนั้นร้อนระอุสุด ๆ จนดูโหดร้ายไปทุกอย่าง ทำให้หลวงปู่ชื่นเกิดความเบื่อหน่ายจึงเดินธุดงค์เข้ามายังแผ่นดินไทยที่มีแต่ความสง
บร่มเย็น

“ หลวงปู่ชื่น นามเดิมชื่อ ชื่น นามสกุล ศรีโสด เกิดเมื่อวันศุกร์ เดือน 11 ปีมะเมีย ตรงกับปี พ.ศ. 2461 เกิดที่บ้านหินกอง อำเภอหินกอง จังหวัดสวายศรีโสภน ประเทศกัมพูชา โยมบิดาชื่อ นายชุบ โยมมารดาชื่อ พิม ศรีโสด มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 7 คน คือ นายเรียว, นายโพธิ์, นายบุญ, นายเกิด, หลวงปู่ชื่น, นางยอด และนางยาว ครอบครัวมีอาชีพทำนาทำไร่ตามประสาชาวบ้านในชนบททั่วไปของชาวเขมร

ชีวิตในวัยเยาว์ของ หลวงปู่ชื่น นิสัยท่านเป็นคนใจบุญ มีความสุขุมลุ่มลึก และมีใจโอบอ้อมอารีชอบเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง ทั้งยังมีจิตใจเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เด็ก ๆ พออายุได้ 15 ปี ได้ขอบิดามารดาบรรพชาเป็นสามเณร ซึ่งพ่อแม่ไม่ขัดข้อง ท่านจึงได้บวชเป็นสามเณร ณ วัดในหมู่บ้านเกิดของท่าน

หลังจากบวชเณรได้ระยะหนึ่งพอถึงอายุ 20 ปี หลวงปู่ชื่น ก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาโดยได้รับฉายาว่า “ติคญาโณ” เมื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุโดยสมบูรณ์แล้ว หลวงปู่ชื่นได้ศึกษาบทสวดมนต์และบทสวดปาติโมกข์ ซึ่งใช้เวลาเพียงหนึ่งพรรษาก็สวดพระปาติโมกข์ได้แล้ว นับว่าหาพระที่เก่งเช่นนี้น้อยมาก เพราะการท่องบทพระปาติโมกข์พระบางรูปต้องใช้เวลานานนับ 5 ปี 10 ปี เนื่องจากเป็นบทสวดที่ยาวและยากที่สุดนั่นเอง

“ หลวงปู่ชื่น สอบนักธรรมชั้นตรีได้ในพรรษาที่ 3 หลังจากนั้นท่านจึงออกเดินธุดงค์ปลงสังขารลัดเลาะไปตามป่าดงพงพี ข้ามเขาลงห้วยในดินแดนประเทศกัมพูชา ทำให้ท่านได้พบกับครูบาอาจารย์ที่เก่ง ๆ อยู่หลายรูป ซึ่งแต่ละอาจารย์ก็ได้ถ่ายทอดวิชาอาคมที่ตนมีอยู่ให้ หลวงปู่ชื่น จนหมดสิ้น โดยเฉพาะฤๅษีที่บำเพ็ญพรตอยู่กลางป่าดงดิบได้ถ่ายทอดวิชาขั้นสุดยอดให้ หลวงปู่ชื่น เพื่อให้นำไปช่วยเหลือศิษย์ต่อไปอีก”

หลวงปู่ชื่น เป็นพระเถระที่มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย มีศีลจารวัตรที่งดงาม ชอบบำเพ็ญกุศลเพื่อเสริมสร้างบารมีให้แก่กล้าขึ้น ท่านจะตื่นตั้งแต่ตีสามทำวัตรสวดมนต์ และช่วงค่ำก็เช่นกันท่านจะสวดมนต์มิได้ขาด (นอกจากจะมีกิจนิมนต์และป่วยเท่านั้น)

“ หลวงปู่ชื่น ชอบทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมเป็นที่สุด และให้ความเป็นธรรมแก่ศิษยานุศิษย์เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของศิษย์ทั้งหลายอีกด้วย ท่านจึงเป็นที่รักเคารพของศิษย์และประชาชนทั่วไปเป็นจำนวนมากในขณะนี้”

ได้อาจารย์เก่งวิชาทุกด้าน
หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ เป็นศิษย์สาย “เขากุเลน” ซึ่งเป็นศูนย์รวมเวทวิทยาอาคมชั้นสูง ที่เป็นฉบับแท้ดั้งเดิมของเขมรโบราณ อาจารย์องค์แรกของท่านคือ “หลวงปู่เอื้อย และหลวงปู่ดี สุวรรณดี” สองปรมาจารย์ผู้มีพลังจิตอันลึกล้ำ ทั้งยังมีอิทธิฤทธิ์-ปาฏิหาริย์มากมายเป็นที่เลื่องลือกันมากในประเทศกัมพูชา

หลวงปู่ชื่นได้มองเห็นกาลไกลไปข้างหน้าว่า “พรเวทวิทยาคม” ที่ท่านกำลังศึกษาอยู่นี้จะเป็นประโยชน์มากแก่การทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ทั้งยังได้ช่วยเหลือสงเคราะห์ญาติโยมและผู้เดือดร้อนต่าง ๆ ในอนาคตภายหน้าแน่นอน ท่านจึงมุมานะพยายามขยันศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมจนสุดความสามารถ ตลอดจนศึกษาการเจริญวิปัสสนากรรมฐานนั่งสมาธิควบคู่ไปด้วย เพื่อเพิ่มพูนพลังจิตให้แก่กล้าขึ้น

“ หลวงปู่ชื่น ท่านเรียนกรรมฐานควบคู่ไปกับวิชาอาคมจนท่านเรียนรู้ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว โดยมีการทดสอบจากผู้เป็นอาจารย์จนเป็นที่พอใจ โดยเฉพาะหลวงปู่เอื้อยท่านมีเมตตาถ่ายทอดวิชาและเคล็ดลับต่าง ๆ ให้ หลวงปู่ชื่น จนหมดสิ้น หลวงปู่เอื้อย ท่านเป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในเขมร ดังชนิดผู้หลักผู้ใหญ่ในเขมรขณะนั้นยังมอบตัวเป็นศิษย์หลายคน” ในเวลาต่อมาเมื่อหลวงปู่เอื้อยมรณภาพลง หลวงปู่ชื่นจึงออกเดินธุดงค์บุกป่าฝ่าดงดิบในดินแดนเขมรเพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์อีกม
ากมาย จนกระทั่งท่านได้พบกับหลวงปู่ดี สุวรรณดี บน “เขากุเลน” ซึ่งท่านเป็นพระผู้มากด้วยอภิญญาญาณชั้นสูง และเป็นผู้มีพลังจิตอันลึกล้ำมหัศจรรย์เหนือโลกโดยแท้

ด้วยบุญญาบารมีของ หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ ทำให้หลวงปู่ดีรับหลวงปู่ชื่นเป็นศิษย์แล้วจึงพากันออกเดินธุดงค์ไปด้วยกันตามสถานที
่ต่าง ๆ “หลวงปู่ชื่นได้ศึกษากรรมฐานและเวทวิทยาคมกับธาตุทั้ง 4 ตลอดจนเกร็ดเคล็ดลับการสร้าง-การปลุกเสกวัตถุมงคล เครื่องรางต่าง ๆ มากมายจากหลวงปู่ดี ทำให้ท่านมีวิชาติดตัวมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้”

หลวงปู่ชื่นได้เมตตาเล่าเรื่องราวและประสบการณ์ในการเดินธุดงค์ของท่านให้ฟังว่า “ หลวงปู่ดี ท่านนี้เก่งมาก ท่านเชี่ยวชาญพระเวทแทบทุกชนิด ท่านเคยเสกผ้าให้เป็นนกกระยางได้ และเสกใบไม้ให้เป็นต่อเป็นแตนได้ ทั้งยังรู้ภาษาสัตว์แทบทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านสามารถล่องหนหายตัวและย่นระยะทางได้ ตลอดจนท่านเดินบนผิวน้ำได้อย่างน่าอัศจรรย์อีกด้วย” หลวงปู่ชื่นเล่าว่า หลวงปู่ดีท่านเคยแสดงให้ดูมาแล้ว ท่านเห็นกับตามาแล้วจึงกล้ามาเล่าให้ฟัง ท่านแสดงให้ดูก็เพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติธรรมสืบต่อกันไปนั่นเอง “การเรียนวิชาอาคมจะมีฤทธิ์เข้มขลังได้ ต้องประกอบไปด้วยพลังจิตอันเป็นสมาธิแก่กล้าควบคู่กันไปด้วย” หลวงปู่ชื่น กล่าว

หลวงปู่ชื่น เป็นพระที่คงแก่เรียนคือท่านชอบศึกษาค้นคว้าตำรับตำราและวิชาการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอักขระเลขยันต์ หรือวิชาอาคมอะไรท่านจะทดลองสร้างทดลองปลุกเสกอยู่เสมอ เมื่อท่านลองแล้วเห็นว่าดีจริงและใช้ได้ผลดีจริงตามตำรา ท่านก็คัดวิชาวิเศษเหล่านั้นมาสร้างมาปลุกวัตถุมงคลให้บรรดาลูกศิษย์ และลูกหลานท่านให้ได้รับแต่สิ่งที่เป็นมงคลเป็นของวิเศษไว้บูชากัน จากการคัดเลือกพิจารณาตรวจจากหลวงปู่ชื่นแล้วว่า “ดีจริง-เห็นผลจริง” จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์ต่อเนื่องเรื่อยมา จนเป็นที่กล่าวขานร่ำลือจากปากของผู้ที่บูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่นว่ายอดเยี่ยมอยู
่ในขณะนี้

ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนจึงขอนำท่านทั้งหลายได้รู้จัก หลวงปู่ชื่น เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้มีโอกาสรู้จัก หลวงปู่ชื่น อย่างแจ่มแจ้งชัดเจน และใกล้ชิดหลวงปู่มากขึ้น เพราะลูกศิษย์บางคนอยู่ห่างไกลซึ่งยังไม่มีโอกาสเดินทางมากราบไหว้หลวงปู่ จะด้วยสาเหตุและปัจจัยใด ๆ ก็ตาม ผู้เขียนขอเป็นสื่อ ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อเป็นการหยั่งความสามัคคีให้เกิดขึ้นในหมู่ลูกศิษย์ที่มีความเคา
รพนับถือหลวงปู่ หรือท่านที่มีวัตถุมงคลของ หลวงปู่ชื่น ไว้แล้ว ขอให้รู้ว่าเราทั้งหลายก็เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์องค์เดียวกัน เพราะมีวัตถุมงคลที่มาจากการปลุกเสกจากหลวงปู่ด้วยกันทั้งนั้น ทั้งนี้เพื่อช่วยจรรโลงเกียรติคุณของ หลวงปู่ชื่น ให้แพร่หลายขจรไป ตลอดยั่งยืนนานต่อไปในภายภาคหน้านั่นเอง

พบสหธรรมิกเก่า

หลังจาก หลวงปู่ชื่น ธุดงค์ไปในที่ต่าง ๆ มากมาย จนกระทั่งท่านเดินทางไปจำพรรษาอยู่ที่วัดนาราก อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ท่านอยู่ได้ 5 พรรษาจึงได้เดินธุดงค์ต่อเรื่อยไปจวบจนอายุท่านมากขึ้น กำลังวังชาถดถอย ท่านจึงอยู่กับที่ระยะหนึ่ง ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2524 หลวงปู่ชื่นได้รับนิมนต์เดินทางไปปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดแห่งหนึ่งใน เขตจังหวัดบุรีรัมย์ งานนั้น หลวงปู่นิล อนุตโร เจ้าอาวาสวัดตาอีรูปปัจจุบันซึ่งเคยเป็น “สหธรรมิก” (เพื่อน) เก่าก่อนกันมาก็ได้รับนิมนต์จากทางเจ้าภาพให้เป็นพระคู่สวดเช่นกัน
หลังจากพระทุกองค์เสด็จจากกิจนิมนต์แล้ว ทางเจ้าภาพได้จัดถวายอาหารเพลให้ฉัน หลวงปู่นิล กับ หลวงปู่ชื่น นั่งฉันในวงเดียวกัน หลวงปู่นิลหันมองพระที่นั่งอยู่ข้างตัว ท่านคิดในใจว่าคล้ายเคยเห็นกันมาก่อน แต่ท่านยังจำไม่ได้ว่าเคยเห็นกันที่ไหน เพราะความที่จากกันมานานหลายสิบปีทำให้ท่านทั้งสองแทบจำกันไม่ได้ หลวงปู่นิลได้แต่คิดในใจว่าพระองค์นี้ทำไมช่างเหมือน หลวงปู่ชื่น เสียเหลือเกิน จนอดใจไม่ไหวจึงเอ่ยถามไปว่า

“หลวงพ่อท่านอยู่วัดไหน ชื่ออะไร”

หลวงปู่ชื่น ตอบกลับไปทันที

“อาตมาชื่อชื่น เป็นพระธุดงค์ยังไม่มีวัดจำพรรษา”

หลวงปู่นิล นั่งคิดตั้งนานที่แท้ก็ใช่หลวงปู่ชื่นจริง ๆ ด้วย เมื่อท่านทั้งสองได้นั่งสนทนากันแล้วหลวงปู่นิลจึงได้ออกปากนิมนต์หลวงปู่ชื่นให้มาจ
ำพรรษาอยู่ด้วยกันที่วัดตาอี ประกอบกับช่วงนั้น หลวงปู่ชื่น มีอายุมากแล้วและชาวบ้านตาอีก็ได้นิมนต์ท่านไว้ไม่ให้เดินธุดงค์อีก นับตั้งแต่นั้นมา หลวงปู่ชื่น จึงได้อยู่จำพรรษาที่วัดตาอีเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้

เพชรเริ่มทอแสง

หลังจาก หลวงปู่ชื่น มาอยู่วัดตาอีแล้วท่านได้เก็บตัวเงียบอยู่แต่ภายในกุฏิหลังเล็ก ๆ เหมือนพระหลวงตาแก่ ๆ ธรรมดา แทบไม่มีใครรู้เลยว่าท่านเป็นพระที่มี “พลังจิต” และมีอาคมเข้มขลังมาก จนกระทั่งกลางปี พ.ศ. 2542 หลวงปู่ชื่นได้สร้างวัตถุมงคลออกมา 2-3 รุ่น ผลปรากฏว่าผู้ที่นำวัตถุมงคลของท่านไปบูชา
ต่างมีประสบการณ์ต่าง ๆ นานามากมาย จากปากต่อปากทำให้วัตถุมงคลที่ท่านบรรจุพลังจิตเวทวิทยาคมที่มี “พลังมหัศจรรย์” ความวิเศษขลัง ยับยั้งภัยพาล อาถรรพณ์จัญไร ขจัดสรรพทุกข์ สรรพโรค สรรพภัยที่มีอานุภาพ ทั้งเมตตามหานิยม มหาโชค มหาลาภ ค้าขายดีเยี่ยม คุ้มครองป้องกัน ทำให้ชื่อเสียงหลวงปู่ชื่นดังขึ้นมาเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วไปมากขึ้นเป็นลำดับ จากปากผู้ที่ได้บูชาวัตถุมงคลของท่านไปบูชาส่วนใหญ่ยอมรับว่าวัตถุมงคลของท่านดีเยี่
ยมจริง ๆ ใช้แล้วได้ผลดีเกินคาด ส่วนสาเหตุที่ท่านยอมเปิดตัวและจัดสร้างวัตถุมงคลออกมาเป็นทางการเนื่องจาก ท่านกำลังก่อสร้างอุโบสถซึ่งขาดปัจจัยอยู่อีกมาก อีกประการหนึ่งหลวงปู่เคยบอกไว้ว่า

“ถึงเวลาที่ครูบาอาจารย์ท่านให้เปิดตัวแล้ว เพื่อนำความรู้เวทวิทยาคมที่ได้ร่ำเรียนมาสงเคราะห์พุทธศาสนิกชน และจัดสร้างถาวรวัตถุเพื่อการพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป”

หินลงสระกลายเป็นงูยักษ์

เมื่อครั้งที่ หลวงปู่ชื่น มาอยู่ที่วัดตาอีใหม่ ๆ นั้น ท่านได้เร่งทำความเพียรปฏิบัติธรรมจนพลังจิตแก่กล้า ด้วยท่านเป็นพระที่รักสันโดษชอบเก็บตัวเงียบ ๆ อยู่แต่ภายในกุฏิ ชาวบ้านจึงคิดว่าท่านเป็นหลวงตาแก่ ๆ ไม่มีอะไร เป็นพระธรรมดาไม่มีวิชาอาคมอันใด

ต่อมาทางวัดได้ขุดสระใหม่ ทางเจ้าอาวาสจึงประกาศบอกชาวบ้านว่า “ห้ามลงอาบน้ำในสระ” เพราะสระน้ำแห่งนี้พระเณรต้องใช้ดื่มกิน แต่ชาวบ้านขาดความเกรงใจท่าน ตกเย็นทั้งหนุ่มสาวพากันลงว่ายน้ำเล่นในสระอย่างสนุกสนาน บ้างก็นำผ้ามาซักทำให้ฟองแฟ๊บที่ซักลอยเต็มคุ้งสระ บอกแล้วก็เฉย เตือนแล้วก็ไม่หยุด

หลวงปู่ชื่น จึงใช้ไม้ตายเพื่อให้รู้จักที่ต่ำที่สูง และที่ควรมิควรกันบ้าง ท่านจึงนำก้อนหินมาสองก้อน แล้วเสกด้วยคาถาอาคมจากนั้นท่านโยนลงไปในสระน้ำ

“สามวันต่อมาพวกที่ชอบลงเล่นน้ำในสระภายในวัดต่างก็ตกใจแตกตื่นขึ้นตลิ่งกันแทบไม่ทั
น เพราะเห็นพญางูยักษ์สองตัวว่ายน้ำไปมาในสระให้เห็นกับตากันจะจะ ชาวบ้านตาอีเห็นกันทั้งหมู่บ้าน”

เรื่องนี้เป็นที่เลื่องลือกันมากในอำเภอบ้านกรวด ถ้าหากใครมีโอกาสได้ไปที่วัดตาอีลองสอบถามชาวบ้านดูก็ได้ และจากวันนั้นเป็นต้นมาจนกระทั่งถึงวันนี้ก็ไม่มีใครกล้าลงไปเล่นน้ำในสระที่วัดตาอี
กันอีกเลย...

รายการวัตถุมงคล หลวงปู่ชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์ บูชาดังนี้

พระชัยวรมัน ร่น ชัยมหานาถ (หล่อโบราณ) 1800
ดวงตราอาถรรพ์ 500
ตะกรุด 9 อาถรรพ์ 1500
พระยอดขุนพลพิมพ์ใหญ่ 700 พิมพ์เล็ก 400
ขุนแผนมะรุมมะตุ้ม รุ่น 2 (สภาพใช้) 4,000 บาท (มีองค์เดียว)
ขุนแผนสะกดทัพ ตะกรุดทองคำ 9 ดอก สร้าง 9 องค์ องค์นี้พิเศษที่สุดในจำนวน 9 องค์ คือมีจารยันต์ด้านหลังอีกด้วย
ขุนแผนสะกดทัพ (โทรสอบถาม)
ขุนแผนชมตลาด 500
ขุนแผนนาคเกี้ยว 800
ขุนแผนพรายกุมาร 500 พิมพ์เล็ก 250
ขุนแผนชมนางหลังม้าเสพนาง ฝั่งพลอยแดงและตะกรุด3กษัตริย์ 600
ขุนแผนเคลื่อบน้ำผึ้ง 500
เหรียญ รุ่นแรก (เนื้อทองแดง) 400
ตุ๊กตามหาเสน่ห์ (เนื้อมวลสารล้วน 1400) ธรรมดา 800
น้ำมันบายน 300
ตะกรุดนกทึกทือ 300
ผ้ายันต์ รุ่นรับทรัพย์ ผืนใหญ่แถมเหรียญเจริญพร 600
กุมาร 9 โกฏิ สุดเฮี้ยน โทรสอบถามครับ
กุมาร พรายขอดทรัพย์ (หมด)
กุมาร รุ่นรับทรัพย์ชุบทองอุดผงฝั่งตะกรุด 600
กุมารทอง รุ่นรับทรัพย์ชุบสามกษัตริย์ อุดผงฝั่งตะกรุด 700
พระขรรค์คู่ชีวิต 400 บาท
พระบูชา หน้าตัก 5 นิ้ว 5,000 บาท (สร้างแค่ 300 องค์ หลวงปู่ชื่น สั่งให้สร้างด้วยตัวท่านเอง หลวงปู่เสกจารแผ่นยันต์จำนวนมากหลายร้อยยันต์ และเสกกำกับในพิธีหล่อทุกขั้นตอน)
ตะกรุดมหารูดโภคทรัพย์ 800 บาท (4 กษัตริย์ เงิน ตะกั่ว ทองเหลือง ทองแดง )
และยังมีทุกร่นทุกรายการ โทรสอบถามได้ทุกเวลา
ดูรูปรายละเอียดที่ http://www.itti-patihan.com/หลวงปู่ชื่น-วั....บุรีรัมย์.html

อิทธิปาฏิหาริย์ พระเครื่อง ( อยู่ใกล้ๆโรงพยาบาลตากสิน เลยปากทางเข้าวัดทองนพคุณไปนิดนึง ติดถนน ใหญ่
ห่างจาก เซเว่น 3 คูหา ติดกับร้านอาหาร อำนวยพร มาร้านไม่ถูกกรุณาโทรสอบถามครับ )
529 ถ.สมเด็จเจ้าพระยา แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพฯ 10600 เปิดบริการทุกวัน 9.00 น.-21.30 น. ติดต่อสอบถามที่ 089-052-5456 , 085-903-6808 , 02-438-2879 เอก ติดต่อผมได้ทุกเวลานะครับ ลูกค้าต่างจังหวัด หรือ ไม่สะดวกมาร้าน สามารถ โอนงิน เข้าบัญชี ธนาคารกสิกรไทย สาขา ถนนลาดหญ้า เลขที่ 075-2-80735-3 หรือ ธนาณัติสั่งจ่ายในนาม นาย สุกัณจักขณ์ กิตติวรเกียรติ ปณ.คลองสาน ดูรายละเอียดวัตถุมงคล ของร้านอิทธิปาฏิหาริย์ พระเครื่อง


--------------------
Go to the top of the page
 
+Quote Post
 
Start new topic
คำตอบ (1 - 6)
อิทธิปาฏิหาริย์
โพสต์ Feb 28 2008, 07:58 AM
โพสต์ #2


Advanced Member
***

กลุ่ม : สมาชิกลงทะเบียน
โพสต์ : 253
เป็นสมาชิกเมื่อ : 29-October 07
หมายเลขสมาชิก : 236



mellow.gif


--------------------
Go to the top of the page
 
+Quote Post
อิทธิปาฏิหาริย์
โพสต์ Apr 1 2008, 02:47 AM
โพสต์ #3


Advanced Member
***

กลุ่ม : สมาชิกลงทะเบียน
โพสต์ : 253
เป็นสมาชิกเมื่อ : 29-October 07
หมายเลขสมาชิก : 236



รายการวัตถุมงคล หลวงปู่ชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์ บูชาดังนี้

พระชัยวรมัน ร่น ชัยมหานาถ (หล่อโบราณ) 1800
ดวงตราอาถรรพ์ 500
ตะกรุด 9 อาถรรพ์ 1500
พระยอดขุนพลพิมพ์ใหญ่ 700 พิมพ์เล็ก 400
ขุนแผนมะรุมมะตุ้ม รุ่น 2 (สภาพใช้) 4,000 บาท (มีองค์เดียว)
ขุนแผนสะกดทัพ ตะกรุดทองคำ 9 ดอก ฝังเกศา สร้าง 9 องค์ องค์นี้พิเศษที่สุดในจำนวน 9 องค์ คือมีจารยันต์ด้านหลัง และหลวงปู่เจิม น้ำมันมหาเสน่ห์ยุคแรกให้อีกด้วย เป็น1 เดียวในจำนวน 9 องค์
ขุนแผนสะกดทัพ (โทรสอบถาม)
ขุนแผนชมตลาด 500
ขุนแผนนาคเกี้ยว 800
ขุนแผนพรายกุมาร 500 พิมพ์เล็ก 250
ขุนแผนชมนางหลังม้าเสพนาง ฝั่งพลอยแดงและตะกรุด3กษัตริย์ 600
ขุนแผนเคลื่อบน้ำผึ้ง 500
เหรียญ รุ่นแรก (เนื้อทองแดง) 400
ตุ๊กตามหาเสน่ห์ (เนื้อมวลสารล้วน 1400) ธรรมดา 800
น้ำมันบายน 300
ตะกรุดนกทึกทือ 300
ผ้ายันต์ รุ่นรับทรัพย์ ผืนใหญ่แถมเหรียญเจริญพร 600
กุมาร 9 โกฏิ สุดเฮี้ยน โทรสอบถามครับ
กุมาร พรายขอดทรัพย์ (หมด)
กุมาร รุ่นรับทรัพย์ชุบทองอุดผงฝั่งตะกรุด 600
กุมารทอง รุ่นรับทรัพย์ชุบสามกษัตริย์ อุดผงฝั่งตะกรุด 700
พระขรรค์คู่ชีวิต 400 บาท
พระบูชา หน้าตัก 5 นิ้ว 5,000 บาท (สร้างแค่ 300 องค์ หลวงปู่ชื่น สั่งให้สร้างด้วยตัวท่านเอง หลวงปู่เสกจารแผ่นยันต์จำนวนมากหลายร้อยยันต์ และเสกกำกับในพิธีหล่อทุกขั้นตอน)
ตะกรุดมหารูดโภคทรัพย์ 800 บาท (4 กษัตริย์ เงิน ตะกั่ว ทองเหลือง ทองแดง )
และยังมีทุกร่นทุกรายการ โทรสอบถามได้ทุกเวลา
ดูรูปรายละเอียดที่ http://www.itti-patihan.com/SH.php


--------------------
Go to the top of the page
 
+Quote Post
อิทธิปาฏิหาริย์
โพสต์ Apr 22 2008, 02:40 AM
โพสต์ #4


Advanced Member
***

กลุ่ม : สมาชิกลงทะเบียน
โพสต์ : 253
เป็นสมาชิกเมื่อ : 29-October 07
หมายเลขสมาชิก : 236



บางรายการหมด บ้างรายการ มีแค่ อย่างละองค์ รีบบูชาด่วนๆครับ เก็บตอนที่ยังไม่แพง อนาคตสดใสครับ


--------------------
Go to the top of the page
 
+Quote Post
อิทธิปาฏิหาริย์
โพสต์ May 8 2008, 11:58 AM
โพสต์ #5


Advanced Member
***

กลุ่ม : สมาชิกลงทะเบียน
โพสต์ : 253
เป็นสมาชิกเมื่อ : 29-October 07
หมายเลขสมาชิก : 236



ตอนนี้มีของเพิ่มมานิดหน่อย รีบหน่อยนะเดี๋ยวจะพลาดโอกาส อีก


--------------------
Go to the top of the page
 
+Quote Post
อิทธิปาฏิหาริย์
โพสต์ May 16 2008, 10:57 PM
โพสต์ #6


Advanced Member
***

กลุ่ม : สมาชิกลงทะเบียน
โพสต์ : 253
เป็นสมาชิกเมื่อ : 29-October 07
หมายเลขสมาชิก : 236



ตะกรุด 9 อาถรรพณ์ หลวงปู่ชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์

“ของดียังมีอยู่” ในครั้งนี้ผมขอแนะนำ ตะกรุด 9 อาถรรพณ์ของ หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ วัดตาอี จ.บุรีรัมย์ กระผมเชื่อว่าไม่เป็นรองพระคณาจารย์ท่านใด เชื่อผมเถอะผมเดินทางและเที่ยวกราบพระไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะพระทางภาคอีสานเพราะผมชื่นชอบพระแถบนี้เป็นพิเศษเพราะนอกจากท่านจะต่อสู้กับ
กิเลสเพื่อฝ่าฟันสู้ให้ถึงความเป็นพระ ท่านยังต้องต่อสู้กับความแห้งแล้ง แถมยังกันดารอีกต่างหาก
พระสงฆ์ทางนี้นี้ปฏิบัติกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เวลานั่งวิปัสสนากรรมฐานก็ปฏิบัติกันจริงๆ เรียนวิชาอาคมก็เรียนกันจริงๆ จนสามารถทำได้ขลังตามที่ตำราระบุไว้ ไม่ต้องอาศัยผ้าเหลืองหรือสื่อเป็นเครื่องมือหากิน
ดังนั้น ท่านบางคนอาจจะยังไม่ทราบว่า พระทางแถบนี้จึงอยู่เบื้องหลังในความสำเร็จของความขลังในวัตถุมงคลหลายๆอย่าง บ้างก็แอบนำมาให้ท่านเสก แล้วนำไปออกในสำนักของตนเอง แถมยังหน้าด้านบอก “กูเสกเอง” บ้างก็บอกใช้พระกูแล้วจะรวย ใช้พระกูแล้วจะฉลาด เรียนเก่งปัญญาดี คนก็ชอบกันไปบูชา เพราะไม่ต้องทำอะไรคล้องพระแล้วร่ำรวย อย่างมงายครับ
ท่านทั้งหลายครับ เราเอาความจริงมาพูด ถ้าคล้องพระแล้วไม่ทำงาน ไม่ขยันเพิ่ม เงินจะมาจาไหน? ให้เด็กคล้องพระ แต่ไม่ให้มันอ่านหนังสือ ปัญญามันจะมาได้อย่างไร? ไม่ใช่ไม่เชื่อว่า “อิทธิคุณ” ไม่มีจริง “เชื่อครับ” แต่เราต้องมีหลักเหตุ และผลประกอบด้วย.
ตะกรุด 9 อาถรรพณ์ หลวงปู่ชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์
บรรดาศิษย์ใกล้ชิดต่างทราบกันดีว่า หลวงปู่ชื่น ท่านสำเร็จวิชาอาถรรพณ์เวทย์ วัตถุมงคลต่างๆ ที่ผ่านการอธิษฐานบรรจุ “มนต์อาถรรพณ์เวทย์” จากท่านจึงทรงอิทธิคุณอิทธิฤทธิ์ เป็นที่กล่าวขานร่ำลือ และมีการแสวงหาอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านมีผู้แสวงหามาไว้ครอบครองกล้าเสนอราคาจนน่าใจหาย เพราะวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่น บางอย่างมีราคาแพงและหายาก ดังนั้นผมจึงอยากแนะนำ ของดีอีกอย่างที่ท่านบรรจงสร้างและจาร ถักเชือกด้วยตัวท่านเอง วัตถุมงคลนี้ศิษย์ของ หลวงปู่ชื่น ทุกท่านไม่ควรมองข้าม ที่ผมจะกล่าวถึงก็คือ ตะกรุด 9 อาถรรพณ์ คาดคะเนว่าท่านสร้างนั้นไม่น่าจะเกิน 100 เส้น (ไม่ต้องไปหาที่ไหน เพราะไม่มีอีกแล้ว)
ปฐมกำเนิดจากความอยากได้ของบรรดาศิษย์ ที่ต้องการ ตะกรุดอาถรรพณ์ 108 ดอก จึงไปรบเร้าหลวงปู่ชื่น ซึ่งหลวงปู่ชื่น ท่านบอก “เอา 9 ดอกก็พอ เอา 108 อาถรรพณ์***จะเอาไปสู้กับพรอินทร์หรือไง”
ผลสุดท้ายท่านทำให้แค่ 9 ดอก 9 อาถรรพณ์ ( 1 เส้นมี ตะกรุด 9 ดอก) อานุภาพตะกรุด 9 อาถรรพณ์ เคยแสดงอภินิหารประจักษ์ชัดแจ้ง ที่ผมพอรู้มาคือ เคยมีชาวบ้านจากจังหวัดศรีสะเกษ เดินทางมาหาหลวงปู่ชื่น วัดตาอี ได้มาปรึกษาปรับความทุกข์กับท่าน โดยชายคนนี้ได้เล่าความทุกข์ของตนเองให้หลวงปู่ชื่นฟังด้วยสีหน้าที่เศร้าโศกและแววต
าที่อมทุกข์ว่า....ตนเองมีอาชีพขายข้าว มีโรงสีข้าวเล็กๆอยู่ในหมู่บ้าน เป็นธรรมดาของโรงสีข้าว เมื่อสีข้าวเสร็จต้องมีแกลบ บังเอิญแกลบได้ไหลเข้าไปในบริเวณเขตบ้านใกล้เรือนเคียง เจ้าของบ้านหลังนั้นโกรธแค้นตนมาก พยายามปรับความเข้าใจหลายครั้งก็ไม่เป็นผล เจ้าของบ้านถึงกับประกาศว่า “กูจะทำให้พวก***ฉิบหาย พวก***คอยดู” ครั้งนั้นตนเองก็ไม่ได้คิดอะไร อาจจะด้วยอารมณ์โมโหที่เพื่อนบ้านกล่าววาจาไปเช่นนั้นก็เป็นได้
สืบต่อมาก็มีเหตุการณ์แปลกๆ ซึ่งตนเองไม่เคยคิดว่าจะเกิดกับครอบครัวของตนเองก็เกิดขึ้น เมื่อเวลาดึกๆของวันพระ มักจะมีหมาเห่าหอนโหยหวนรอบบริเวณบ้าน พร้อมกันนั้นจะได้ยินเสียงเหมือนกับมีวัตถุบางอย่างตกลงมากระทบบนหลังคาบ้านหรือปะทะ
กับฝาบ้านบ้าง แต่ตนจึงนิ่งเฉย คิดว่าเพื่อนบ้านคงเอาอะไรมาปาฝาบ้าน ถ้าเราออกไปต่อปากต่อคำ กลัวเรื่องจะบานปลายไปกันใหญ่ และอีกอย่างก็ดึกแล้วด้วย
หลังจากเหตุการณ์คืนนั้นผ่านไปต่อมาภรรยาก็ล้มป่วยและเสียชีวิตลง ลูกน้องที่เคยช่วยงานภายในโรงสีก็มาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ภายในอาทิตย์เดียวตนเองต้องเสียภรรยาคู่ชีวิต และลูกน้องคู่ใจ แถมช้ำเครื่องสีข้าวก็มีปัญหาเสียโน่นเสียนี่ สีข้าวก็ไม่ได้ดั่งใจ ต่ำกว่ามาตรฐานจนไม่ค่อยมีลูกค้ามาใช้บริการ ดังนั้นเงินทองที่เก็บสะสมไว้ก็หมดลงไปทุกวัน เลยไปหาหมดดูเค้าบอกว่า.....ครอบครัวตนโดนกระทำทาง “คุณไสย” ได้ไปหาพระเก่งๆ เครื่องรางของขลังดีๆ หลายสำนักก็ไม่หาย
จนมาเจอพระองค์หนึ่งแนะนำให้มาหา หลวงปู่ชื่น วัดตาอี จังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้เดินทางกันมา เมื่อหลวงปู่ชื่นท่านได้รับทราบข้อมูลต่างๆ แล้วท่านได้นั่งหลับตาชั่วครู่ก็เดินเข้าไปในกุฏิหยิบตะกรุด 9 อาถรรพณ์ ออกมาหลายเส้น พร้อมกับมอบให้ชายผู้นี้คาดเอวติดตัวไว้ตลอดเวลา ส่วนที่เหลือให้แจกจ่ายบุตรและบริวาร พร้อมกับทำน้ำมนต์ให้ไปปะพรมบ้าน จากนั้นชายผู้นี้จึงลาหลวงปู่เดินทางกลับบ้าน
หลังจากนั้นไม่กี่วันชายผู้นี้ได้เดินทางกลับมาหาหลวงปู่ชื่นอีกครั้งพร้อมกับเล่าเห
ตุการณ์ต่างๆ ให้หลวงปู่ชื่นฟังว่า...หลังจากที่มาหาหลวงปู่ เมื่อกลับถึงบ้านได้คาด ตะกรุด 9 อาถรรพณ์ พร้อมกับถือน้ำมนต์ที่หลวงปู่ทำให้ไป เมื่อเปิดบ้าน ก็ได้ยืนท่องคาถาที่หลวงปู่ให้ไปใช้คู่กับตะกรุด 9 อาถรรพณ์ พร้อมกับกลั้นใจก้าวขาข้ามธรณีประตู ทันทีที่เท้าสัมผัสพื้นบ้าน เมื่อเดินสำรวจดูพบตะ)สีดำสนิมเขลอะ 7 ดอกตกอยู่บริเวณพื้นบ้าน จึงนำเอาน้ำมนต์ของหลวงปู่ชื่นใส่ขัน และนำตะปูทั้งหมดใส่ลงไปในขันน้ำมนต์ ทันทีที่ตะปูสัมผัสกับน้ำมนต์เสียงดังซ่า...! ควันขึ้นเลย (ลักษณะเหมือนกับเราเอาตะปูร้อนๆ ใส่ลงไปในน้ำ) เลยนำเอาตะปูทั้งหมดมาถวายหลวงปู่พิจารณา
หลวงปู่ชื่น ท่านบอกว่า เป็นตะปูโลงผี 7 ป่าช้า มีฤทธิ์ร้ายแรงมาก หลวงปู่ชื่นท่านขอไว้ บอกจะแผ่เมตตาให้วิญญาณร้ายเหล่านี้ และหมอที่ปล่อยตะปูทั้ง 7 ดอก ให้เลิกแล้วต่อกัน ก่อนที่ชายผู้นี้จะลากลับไปหลวงปู่ชื่น ท่านได้ประพรหมน้ำมนต์ให้อีกด้วย
ทราบต่อมาว่า ตะปูโลงผี ทุกดอก หลวงปู่ชื่นท่านได้นำไปผสมสร้างมีดหมดของท่านด้วย (มิน่าล่ะมีดหมดของท่านถึงได้แรงและเฮี้ยนน่าดู)
จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ตะกรุดชุดนี้จึงตกมาอยู่กับผม และศิษย์ที่ทราบข่าวจำนวนหลายเส้น แถมทราบมาว่าท่านถักเชือกร้อยตะกรุดด้วยตัวท่านเอง เวลาท่านถักเชือกท่านจะบริกรรมอัญเชิญเทวดามาประจำตามข้อตามปมของเชือกอีกด้วย
ตะกรุด 9 อาถรรพณ์ หลวงปู่ชื่นท่านได้ลงคาถากำกับไว้ดังนี้ ดอกที่ 1. ลงอาถรรพณ์พระเจ้าแผ่นดิน 2. ลงหัวใจอาถรรพณ์พญานาคตัวผู้-ตัวเมีย 3.ลงหัวใจอาถรรพณ์ราชา 4.ลงหัวใจอาถรรพณ์ 5.ลงหัวใจอาถรรพณ์นครธม 6.ลงหัวใจอาถรรพณ์อัปสร 7.ลงหัวใจอาถรรพณ์นครชุม 8.ลงหัวใจอาถรรพณ์พยาพาลี 9.ลงหัวใจอาถรรพณ์ครูเสน่ห์

(คาถาบูชาตะกรุด 9 อาถรรพณ์)
ท่องนะโม 3 จบ แล้วตามด้วย..........อาถันโท โมสิตังวะกะริงคะรัง อิสวาสุ อิอาถันโทโมสิตัง วะกะริงคะรังสุสวาอิ 9 จบ อะปะรายิติ 9 จบ แล้วอธิษฐานตามความปรารถนา ขอบารมีของหลวงปู่ชื่น ติคญาโณ เป็นที่พึ่ง (ต้องกระซิบบอกว่าของดีมีน้อยจริง)

ดูรูปและรายละเอียดได้ที่ http://www.itti-patihan.com/SH.php



--------------------
Go to the top of the page
 
+Quote Post
อิทธิปาฏิหาริย์
โพสต์ Sep 4 2008, 02:29 AM
โพสต์ #7


Advanced Member
***

กลุ่ม : สมาชิกลงทะเบียน
โพสต์ : 253
เป็นสมาชิกเมื่อ : 29-October 07
หมายเลขสมาชิก : 236



ขุนแผนนาคเกี้ยวหมดครับ


--------------------
Go to the top of the page
 
+Quote Post

Reply to this topicStart new topic
มี 1 คน กำลังอ่านหัวข้อนี้ (บุลคลทั่วไป 1 คน และ 0 สมาชิกที่ไม่เปิดเผยตัว)
สมาชิก 0 คน คือ :

 




Lo-Fi Version ขณะนี้เวลา : 11th September 2025 - 02:41 PM