คมเลนส์ส่องพระ, เทศกาลถือศีลกินเจ เริ่มแล้วตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ ตุลาคมที่ผ่านมา ตัวเลือก

[Witwatarun]

คมเลนส์ส่องพระ

*** เทศกาลถือศีลกินเจ เริ่มแล้วตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ ตุลาคมที่ผ่านมา ไปจนถึงวันศุกร์ที่ ๑๙ ตุลาคม รวม ๙ วัน ชาวจีนเรียกว่า "เจเดือนเก้า"

ตามเดือนจันทรคติของจีน แต่บางคนอาจจะกินเพิ่มก่อนและหลังอีก ๒ วัน นัยว่าเพื่อเป็นการ "ล้างท้อง" ช่วงนี้อาหารที่ประกอบจากเนื้อสัตว์ จะลดน้อยลงมาก ฉะนั้น ท่านที่กินเจ จึงถือได้ว่า เป็นผู้หนึ่งที่มีจิตเมตตาเป็นกุศล เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตสรรพสัตว์ทั้งหลาย ตายน้อยลง...ขออนุโมทนา **



*** วันพรุ่งนี้...มีงานประกวดพระ ที่ศูนย์จำหน่ายอัญมณีเทศบาลตำบลบ่อพลอย(โอท็อป) จ.กาญจนบุรี จัดโดย ประชาโพธิพิพิธ (กำนันเซียะ) อดีตส.ส.กาญจนบุรี สุรศักดิ์ รัตนดำรงชาติ นายกเทศมนตรีบ่อพลอยประสานงานโดย เล็กพงษ์พานิช คนที่วงการพระเครื่องรู้จักกันอย่างกว้างขวาง เพราะช่วยงานชาวบ้านเขามาโดยตลอด ถึงคราวนี้ก็คงมีเพื่อนพ้องน้องพี่ไปช่วยงานเขาบ้างอย่างแน่นอน คนในวงการพระด้วยกันก็อย่างนี้แหละ เรื่องของ "น้ำใจ" ต้องมาก่อนอื่นใดทั้งสิ้น

** รางวัลชนะเลิศยอดเยี่ยม พระบูชาภ.ป.ร.ปี ๒๕๐๖ วัดเทวสังฆาราม หน้าตัก ๙ นิ้ว รางวัลชนะเลิศแต่ละรายการ หนังสือพระยอดนิยมลุ่มน้ำแม่กลองฉบับสมบูรณ์งานนี้ถ่ายภาพพระชนะประกวดโดย ทีมงาน ล้งท่าพระจันทร์ โทร.๐๘-๑๖๑๕-๕๑๒๑

** "คมเลนส์ส่องพระ" วันนี้ขอเริ่มด้วยพระดีเมืองสุพรรณที่หายากสุดคือ พระปทุมมาศเนื้อชินเงินกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ กรุเดียวกับ พระผงสุพรรณ พระมเหศวร ฯลฯ แต่ พระปทุมมาศขึ้นมาจากกรุเพียงไม่กี่องค์เท่านั้นเอง** อ.มนัสโอภากุล ปรมาจารย์พระเครื่องพระบูชาเมืองสุพรรณ เขียนไว้ในหนังสือ "พระฯ เมืองสุพรรณ" ว่า ... พระปทุมมาศเป็นการตั้งชื่อได้เหมาะสมมากปทุมแปลว่าดอกบัว มาศ แปลว่าทอง ปทุมมาศจึงมีความหมายถึงดอกบัวทอง กรอบพระพิมพ์นี้คล้ายดอกบัว ขนาดกว้าง ๓.๕ ซม.สูง ๔.๕ ซม. องค์พระปฏิมากรประทับนั่ง ปางสมาธิ อยู่กลางกลีบบัว สัณฐานเป็นกลีบบัวบาน พระพักตร์คล้ายศิลปะลพบุรี พระพิมพ์นี้พบจากกรุไม่กี่องค์ (บางคนบอกว่าไม่เกิน ๑๐ องค์) จึงพบเห็นได้ยากยิ่ง

** พระปทุมมาศ องค์ที่เห็นนี้ยังอยู่ในสภาพสวยสมบูรณ์ ผิวพระเดิมๆ ยังมีดินขี้กรุติดอยู่เต็ม อีกทั้งยังปรากฏรายละเอียดบนพระพักตร์อย่างชัดเจนอีกด้วย สภาพพระเช่นนี้ ต้องมีเงินหลักแสนขึ้นไป ถึงจะมีสิทธินิมนต์ขึ้นคอได้ ** พระปทุมมาศองค์นี้เป็นพระของ สำเริงสมประสงค์ ผู้อ่านส่งมาจากจ.ขอนแก่น ** พระเนื้อชินเงิน อีกองค์ที่โด่งดังมาในวงการพระเครื่อง คือ พระปรุหนัง กรุวัดราชบูรณะ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระเอกลักษณ์ของเมืองนี้ เพราะไม่มีในเมืองอื่นใด ที่เรียกว่า "ปรุหนัง" ก็เพราะว่า องค์พระส่วนใหญ่จะมีการฉลุพื้นหลังออก คงเหลือแต่ส่วนที่เป็นรูปองค์พระ ฐาน ต้นโพธิ์ และพระอัครสาวก ที่ยืนอยู่ด้านข้าง การฉลุเอาพื้นหลังออกก็เหมือนกับ รูปหนังตะลุง ที่มีการฉลุ หรือปรุพื้นออก คนสมัยก่อนจึงเรียกพระพิมพ์นี้ส่า พระปรุแบบรูปหนังตะลุง และหดสั้นลงเหลือ "พระปรุหนัง" ในทุกวันนี้แต่พระบางองค์ที่ไม่มีการปรุพื้นออกก็มี อย่างองค์ที่เห็นนี้ มีรอยปรุเพียงบางจุดเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้ผิดรูปแบบแต่ประการใด

** พระปรุหนัง มีหลายพิมพ์ อาทิ และ พิมพ์บัวเบ็ด อย่างที่เห็นในองค์นี้ ซึ่งเป็นพระที่มีความสวยงามประณีตและคมชัดมาก จนปรากฏรายละเอียดทุกอย่างบนองค์พระ สภาพผิวเดิมๆ เป็นพระเก่าเก็บของ เสาวนีย์จันทปัญญากุล เจ้าของร้านดังย่านผ่านฟ้ากทม. ** พระขุนแผนเคลือบพิมพ์แขนอ่อน กรุใหม่ วัดบ้านกลิ้ง บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ได้ลงข่าวการแตกกรุ ไปแล้ว เมื่อฉบับวันอังคารที่ ๙ ตุลาคม วันนี้ขอนำภาพมาให้ชมกันอีก ๒ องค์ ซึ่งเป็นพระที่มีสภาพชำรุด องค์หนึ่งบิ่นมุมบน อีกองค์หนึ่งบิ่นมุมล่าง เอาภาพมาให้ชมเป็นวิทยาทาน จะได้เห็นองค์พระในสภาพต่างๆ กัน แม้จะมีรอยบิ่นอย่างที่เห็นนี้ จ่าวีวงษ์สิทธิ์ ผู้เอื้อเฟื้อภาพบอกว่า เช่าหากันที่หลักแสนขึ้นไปเหมือนกัน

** หลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ จ.ชลบุรีถือได้ว่าท่านเป็นต้นแบบของ พระปิดตาหลังแบบ เนื้อผงคลุกรักท่านแรกของภาคตะวันออก จนได้สร้างชื่อเสียงให้ท่านมานานปี และมีการสืบสานตำราอันนี้มาโดยพระเกจิอาจารย์ยุคหลังอีกหลายท่าน ** นอกจาก พระปิดตา แล้ว หลวงพ่อแก้วยังได้สร้างพระสังกัจจายน์ด้วยเนื้อผงคลุกรักชนิดเดียวกันนี้ด้วย แต่มีจำนวนน้อยกว่าพระปิดตา จึงทำให้พบเห็นได้ยากกว่า อย่างไรก็ตาม ที่เซียนพระเชื่อว่าเป็น พระของหลวงพ่อแก้วก็เพราะมีเนื้อหามวลสารและกรรมวิธีการสร้าง เหมือนกับ พระปิดตาเนื้อผงคลุกรักของหลวงพ่อแก้ว อย่างไรก็อย่างนั้น วงการพระถือเอา ความเก่า เป็นหลักในการพิจารณา พระสังกัจจายน์ เนื้อผงคลุกรัก องค์นี้เป็นพระของ นพ.ทวีชัยจันทร์เพ็ญ ผู้บริหารโรงพยาบาลสิงห์บุรีเวชการ

** หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆสิตารามอ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกท่านหนึ่งของ เมืองสุพรรณ ที่ได้สร้างพระเครื่องของขลังเอาไว้มากมาย ** อ.มนัสโอภากุล ได้บันทึกประวัติของ หลวงพ่อครึ้น ไว้ว่าท่านเกิดเมื่อปี ๒๔๔๓ ที่ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เคยศึกษาวิปัสสนากรรมฐานกับ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ซึ่งเป็นชาวสุพรรณเหมือนกัน จนได้วิชา "ธรรมกาย" ของหลวงพ่อสดมาด้วย

** หลวงพ่อครึ้น ท่านชอบสร้างพระเครื่องรางของขลัง เป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี ๒๔๗๕-๒๔๘๐ (ท่านมรณภาพ ปลายปี ๒๕๐๕) รวมแล้ววัตถุมงคลของท่านมีไม่ต่ำกว่า ๘๔,๐๐๐ องค์ ส่วนใหญ่พระเครื่องของท่านจะมีอักษรตัว "ฆ" อยู่ด้านหลัง ** นอกพระเครื่องแล้ว ของขลังที่ท่านได้สร้างไว้ก็มีมากมายหลายอย่างที่โด่งดังสุดๆ คือ "ตุ๊กแก" ซึ่งมีหลายขนาดในฐานะที่เป็นคนเมืองสุพรรณ ป๋องสุพรรณ จึงต้องเก็บ ตุ๊กแกหลวงพ่อครึ้น เนื้อดินเผาเอาไว้ด้วย เพื่อจะได้เป็นตัวอย่างให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาว่า ของแท้ๆนั้นต้องอย่างที่เห็นในภาพนี้ ตุ๊กแกตัวนี้มีขนาดเล็กกว้าง ๑.๕ ซม. ยาว ๓ ซม.หลังลงอักขระ เช่าหากันเป็นหมื่นขึ้นไป นัยว่าดีทางเมตตามหานิยม และแคล้วคลาดปลอดภัย

** พูดถึง "ตะกรุดลูกปืน" ต้นตำรับจริงๆ ต้องยกให้ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ศิษย์ผู้น้องของ พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ตะกรุดที่ว่านี้ พระอาจารย์นองเรียกว่าตะกรุดนารายณ์แปลงรูปท่านได้ตำราอันนี้มาจากนางไม้ท่านหนึ่งได
้มาบอกตำราให้โดยบอกว่าห้ามจดห้ามเขียนลงในกระดาษ ให้จดจำเอาเอง และห้ามถ่ายทอดวิชานี้ให้คนอื่นด้วย ต่อมาเมื่อ พระอาจารย์นองมรณภาพตำรา ตะกรุดนารายณ์แปลงรูปอันนี้ก็ได้สูญหายไปด้วย

** ตะกรุดนารายณ์แปลงรูปของพระอาจารย์นองท่านได้เอาปลอกลูกปืน ที่ใช้ยิงไปแล้ว ๒ปลอก มาเสียบติดกันข้างในใส่เปลือกไม้ชนิดหนึ่ง ต่อมาเมื่อ ปลอกลูกปืนหายากก็มีลูกศิษย์ที่เป็นเจ้าของร้านทองในตลาดปัตตานี และยะลา ได้ทำ ตะกรุดที่มีลักษณะเหมือนกับปลอกลูกปืนมาให้ท่านบรรจุเปลือกไม้แทน

** นอกจาก ตะกรุดลูกปืน ของ พระอาจารย์นอง แล้วเมื่อไม่นานมานี้ก็มี ตะกรุดลูกปืน ของ พระอาจารย์แดง หนองจิก และของ พระอาจารย์อ๊อดวัดสายไหมจ.ปทุมธานี โด่งดังขึ้นมาแทน ขณะเดียวกัน พระอาจารย์สมชายวัดปริวาส ถนนพระราม๓ ยานนาวา ก็ได้ออก ตะกรุดลูกปืนออกมาอีกแห่งหนึ่งแต่เป็น ตะกรุดลูกปืนคนละตำรากันเพราะของ พระอาจารย์สมชายท่านเรียกว่าตะกรุดลูกปืนพยัคฆราช โดยที่ท่านมีวิชาอาคมทางนี้ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงปู่วงศ์เจ้าอาวาสวัดปริวาส
รูปก่อนหน้านี้ และเป็นผู้มีวิชาอาคมทางด้าน "เสือ" โดยเฉพาะ จึงเชื่อได้ว่า ตะกรุดลูกปืนพยัคฆราชของพระอาจารย์สมชายจะสร้างความโด่งดังในอนาคตอย่างแน่นอนตะกรุด
ลูกปืนพยัคฆราชรุ่นแรกสร้างจำนวน ๕,๐๐๐ ดอก บูชาดอกละ ๓๐๐ บาท ติดต่อได้ที่ พระบุญเรือง(หลวงพี่กุ้ง) วัดปริวาสโทร.๐๘-๑๑๗๓-๗๓๑๒ ** พบกับ "คมเลนส์ส่องพระ" ได้ใหม่ในวันพรุ่งนี้...นะมัสเต***

แล่ม จันท์พิศาโล