ยินดีต้อนรับ ( เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก )


watnongmuang.com

FAN PAGE!!

 
Reply to this topicStart new topic
> ประวัติไกรสรราชสีห์, ภายหลังพุทธกาลได้ประดิษฐ์คิดแต่งดัดแปลงมาจาก ศาสนาพราหมณ์
Witwatarun
โพสต์ Jun 25 2011, 11:12 PM
โพสต์ #1


Advanced Member
***

กลุ่ม : Root Admin
โพสต์ : 1,203
เป็นสมาชิกเมื่อ : 29-June 07
หมายเลขสมาชิก : 3





ประวัติไกรสรราชสีห์

ไกรสรราชสีห์ คุ้มครองป้องกันภยันตราย และเมตตามหานิยม

โบราณกาลเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณทางวิชาไสยศาสตร์ ผู้มีอำนาจสมาธิจิตสูง สามารถอธิฐานจิตปลุกเสกพระเครื่อง-เครื่องรางของขลังในทางคุ้มครองป้องกันภยันตรายและทางเมตตามหานิยม โดยบรรจุเลขยันต์ตามแต่เกจิอาจารย์นั้น ๆ ในวัตถุรูปแบบต่าง ๆ ทั้งเก่าและทั้งใหม่ ในทางศิลปะสวยงามประณีตแตกต่างกันไป ได้แก่ พระเครื่อง ตะกรุด พิศมร เสื้อยันต์ ผ้ายันต์ แหวนมงคล แหวนพิรอด การสักลงอักขระเลขยันต์ฝังเข็ม ฝังตะกรุด วัสดุอาถรรพณ์ และของทนสิทธิ์ของดีด้วยตัวเองมีคดต่าง ๆ มีเขี้ยวหมูตัน เขี้ยวเสือกลวง เป็นต้น

ภายหลังพุทธกาลได้ประดิษฐ์คิดแต่งดัดแปลงมาจาก ศาสนาพราหมณ์ และนำเอาคติต่าง ๆมาจากพุทธประวัติบ้าง ชาดกบ้าง และบรรจุพุทธมนต์อันเกิดแต่พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ตลอดจนเอ่ยอ้างเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย มาประชุมพร้อมกัน เพื่อดลบันดาลให้พระเครื่องและเครื่องรางของขลังเหล่านั้น ได้บังเกิดสิทธิ์เป็นมหัศจรรย์สมจริง จึงถือเป็นแบบอย่างเล่าเรียนสืบต่อกันมาเรียกว่า “ไสยศาสตร์” (วิชาว่าด้วยเวทย์มนต์คาถา ซึ่งถือว่าได้มาจากอินเดีย)

พระเครื่องและเครื่องรางของขลังในหมู่นิยมสะสมพระเครื่อง-วัตถุมงคลนั้น มีอยู่มากมายเป็นอเนกประการยากที่จะนำมาสาธยายได้ครบถ้วนกระบวนความ ในส่วนที่จะหยิบยกเอามานี้ ก่อนอื่นขอออกตัวเสียก่อนว่าผู้เขียนมิได้มีเจตนาที่จะเสนอแนะให้ท่านผู้อ่านริเป็นเ
กจิอาจารย์หรือสร้างพระเครื่องรางของขลัง แต่จะขอเสนอแนะถึงเรื่องที่มาของเครื่องรางนั้น ๆ ตลอดจนอาจารย์ท่านผู้สร้างเป็นประการสำคัญ เพื่อการเล่นหาสะสมเครื่องรางของขลังได้ลึกซึ้งถึงแก่นกลางมิใช่รู้จักอย่างผิวเผินเ
พียงเล็กน้อยเท่านั้น การเล่นหาของท่านจะได้เชื่อถือกันอย่างสนิทใจ


ที่จะนำเอามากล่าวในที่นี้ ก็คือ ราชสีห์งาแกะ เครื่องรางของขลังยอดนิยมอีกชนิดหนึ่งที่หาเล่นกันแพร่หลายเป็นอย่างมาก ราชสีห์ เป็นสัตว์ในวรรณคดีชาดกว่า เป็นสัตว์ที่มีอำนาจเหนือสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง มีถิ่นกำเนิดและพำนักอยู่บนฟากฟ้าป่าหิมพานต์ในหนังสือ สัตวาภิธานของพระศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร)

แม่กดกำหนดสัตว์ ซึ่งควรจดในวาที คือ ชาติราชสีห์ทั้งสี่หมู่อยู่หิมวันต์อีกเหล่าคชสีห์กาบินทรีย์ก็เช่นกัน แปลกที่สีสะผันไปข้างหน้ามาข้างหลัง ราชสีห์กระหนกยอดผันปกปัดฉิมัง คชสีห์มีวงทั้งยอดกนกปกบุรโตทั้งสองสัตว์สูงสุด ฤทธิ์รุทย์เลิศเดโช ถึงสัตว์ที่โต ๆ ก็เกรงเดชเหตุฤทธิ์แรง เภทพรรณราชสีห์จัดเป็นสิ่งที่ท่านแจกแจง ปากหางสี่เท้าแดงพื้นเศวตเภทไกรสร บัณฑุระราชสีห์กายามีสีเหลืองอ่อน กาฬะมิดินทรกายาดำคล้ำหมึกมันเหล่านี้ล้วนกินสัตว์ใจสมรรถอุจฉกรรจ์ แต่เดชยิ่งใหญ่นั้นคือ ไกรสรราชสีห์

อันหนึ่งชื่อติณะ เป็นสิงหะฤทธิ์กายาดังคาวี กินเส้นหญ้าเป็นอาหารราชสีห์สี่ชนิด ที่สถิตปาหิมพานต์มีถ้ำที่สำราญเป็นสัตว์ที่กล้าร่างเริงแรง ท่านปรมาจารย์พระยาศรีสุนทรโวหา (น้อย อาจารยางกูร) ท่านได้รจนาถึงราชสีห์ไว้อย่างละเอียดลออ คือมีสี่ชนิดด้วยกัน และมีรูปลักษณ์ตลอดจนสีสันเฉพาะต่างกันไปเฉพาะไกรสรราชสีห์ ผู้มีวรรณะสีขาว ปาก หาง และเท้าทั้งสี่สีแดงนับว่าเป็นสัตว์ที่มีอำนาจและฤทธิ์เดชยิ่งกว่า ราชสีห์ชนิดอื่นใด และเป็นที่เกรงกลัวต่อมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย

เพื่ออานิสงส์ทางอำนาจ ท่านโบราณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญฉลาดจึงได้จำหลักรูปลักษณ์ของไกรสรราชสีห์ลงในงาช้างเพื
่อให้มีกายขาว หากหางและเท้าทั้งสีทาสีแดง อันเป็นลักษณะของสีสันของ ไกรสรราชห์นั่นเองครับ


พูดถึงงาช้างที่นำมาแกะเป็นรูป ไกรสรราชสีห์นั้นท่านกำหนดให้เอา งาอาถรรพณ์อันได้แก่ งากำจัดและ งากำจาย ซึ่งถือกันว่าเป็นงาเป็น จะมีวรรณเหลืองฉ่ำ ผิดกับงาตาย คืองาที่ได้จากช้างที่ตายแล้วนั่นเอง

งาจำกัด คืองาช้างที่ตกมันแทงหักอยู่กับต้นไม้ ส่วนงากำจาย นั่นได้แก่งาช้างที่แตกหักตกอยู่ในป่า อาจเป็นด้วยการแทงกันเองแล้วงาเกิดแตกหักขึ้นอย่างนี้เป็นต้น

ไกรสรราชสีห์ หรือ สิงห์งาแกะ นั้นมีการสร้างอยู่หลายอาจารย์ด้วยกัน ในแถบจังหวัดภาคกลางได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี และชัยนาท แต่มีจำนวนไม่สู้มากนัก จึงไม่แพร่หลายเท่าที่ควร มามีชื่อเสียงโด่งดังในสมัยของหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพ อำเภอพยุหคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ท่านนี้สร้างสิงห์งาแกะไว้จำนวนมาก


เพราะท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่เข้ามาพบง่ายและไม่หวงของ ใครอยากจะได้สิงห์งาแกะของท่านก็ไปหาเช่านในท้องที่ตลาดอำเภอพยุหคีรี บางคนไปเช่าสิงห์งาแกะไปแล้วก็นำไปให้หลวงพ่อเดิมท่านบริกรรมปลุกเสกอย่างนี้ เป็นต้นด้วยเหตุฉะนี้ สิงห์งาแกะของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ อำเภอพยุหคีรี จังหวัดนครสวรรค์ จึงปรากฏเป็นที่แพร่หลาย กว่าพระอาจารย์ท่านอื่นใด ทั้ง ๆ ที่ในละแวกนั้นมีพระอาจารย์สร้างสิงห์แกะ อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับหลวงพ่อเดิม อยู่หลายอาจารย์ด้วยกัน เช่น หลวงพ่อรุ่ง วัดหนองพลับ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ หลวงพ่อคง วัดใหม่บำเพ็ญบุญ อำเภอสวรรค์บุรี หลหวงพ่อหลิน วัดสมอ อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท และหลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว อำเภอพยุหคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ส่วนทางจังหวัดระยองก็มีหลวงพ่อหอม วัดหมาก มีการสร้างสิงห์งาแกะ อยู่มากเหมือนกันแต่ความนิยม สู้ใสถิ่นแถบจังหวัดภาคกลางไม่ได้

ฉะนั้นการสร้างสิงห์งาแกะมีอยู่หลายอาจารย์ด้วยกันและเป็นช่าแกะในถิ่นแถบเดียวกันคื
อ พยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งยึดเป็นอาชีพสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ ฝีไม้รายมืออยู่ในแนวเดียวกัน ซึ่งเป็นการยากที่จะแยกแยะสิงห์งาแกะเหล่านั้น เป็นของท่านอาจารย์ท่านใดกันแน่ สุดที่จะตัดสินได้ ยิ่งเป็นนักสะสมในรูปพุทธพาณิชย์ ด้วยแล้วสิงห์งาแกะที่อยู่ในมือ ถ้ามีความเก่าอยู่บ้างคือ ริ้วรอยแตกลายงา และมีวรรณะเหลืองอร่ามละก็ ร้อยทั้งร้อยเขาจะดีเป็นสิงห์งาแกะหลวงพ่อเดิม หมดด้วยกันทั้งนั้น เพราะได้ราคาดีว่ากันอย่างนั้นเถอะ ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เขาอุปมาเอาไว้ ด้วยเหตุนี้ สิงห์งาแกะของท่านอาจารย์ต่าง ๆ ที่มีสร้างอยู่ในยุคสมัยเดียวกันกับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพจึงมักจะลงเอาไว้ที่หลวงพ่อเดิมทั้งนั้นแหละครับ

ส่วนสิงห์งาแกะ อีกท่านอาจารย์หนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก และไม่แพ้หลวงพ่อเดิมเช่นกัน ก็คือสิงห์งาแกะของหลวงพ่อรอด วัดวังน้ำวน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร สิงห์ของท่านแปลกอยู่อย่างหนึ่งคือ แทนที่จะแกะด้วยงากำจัดหรืองากำจาย กลับแกะด้วยไม้แก่นขนุนเมื่อใช้ได้สัมผัสสีจะออกไปทางแดงฉ่ำ
เหมือนสีของดอกไม้แดงฉันนั้น


การสร้างภาพสิงห์งาแกะของบรรดาอาจารย์เหล่านี้ก็เพื่ออานิสงฆ์ทางอำนาจนี่เอง ซึ่งหัวใจราชสีห์เขียนว่า สีหะนาทัง ภาวนาเป็นอำนาจ และตบะเดชะ นอกจากท่านโบราณาจารย์จะได้ประดิษฐ์คิดแต่งเป็นรูปลักษณ์งานแกะแล้ว ยังลงยันต์ราชสีห์ในท่าผงาดอยู่ในแผ่น ผ้าประเจียดเสื้อยันต์ เช่น ผ้ายันต์ เสื้อยันต์ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกจังหวัดอยุธยาเป็นต้น ส่วนผ้ายันต์ราชสีห์เส้นคู่ของหลวงพ่อโสก วัดปากคลอง บางครก จังหวัดเพชรบุรี เจ้าของฉายาลูกผู้ชายชื่ออ้ายแผนละก็ต้อมี ผ้ายันต์ผืน ปลัดขิกอันพระธรรค์เล่มละก็ท่านว่าถึงไหนถึงกันซิ พลับผ่า

จากนี้ยังมี คัมภีร์นะ 108 ท่านบูรพาจารย์ยังได้รจนา นะราชสีห์ ขึ้นมาตัวหนึ่งล้วนแต่มีอุปเท่ห์ใช้ในทางอำนาจและตบะเดชะ เป็นที่น่าเกรงขามทั้งสิ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีหน้าที่ปราบปราม ท่านว่าไว้อย่างนั้น


สูตรลงตัวราชสีห์

ปะปะมังพินทุกังชาตัง ทุติยังทัณฑะเมวะจะ ตะติ ยะเภทะกัณฑเจวะ จตุถังอังกุสัมภะวังปัญ จะมังสิริลังชาตัง นะกา โรโหติสัมพะโว พุทธัง ราชะสิงหะกัณเจวะ สังฆังราชะสิงหะกัณ เจวะ นะราชสีห์

คาถาเสก

ตะโตโพธิสัตโต ราชสิงโห จะมหิทธิโก ตะมัตถังปะกาเสนโต สัตถาอาหะ


--------------------
อีกหนึ่งบริการใหม่ของเรา หนังสือพิมพ์กะฉ่อนดอทคอม ในหมวดพระเครื่อง

เพื่อให้เกิดความสดวกสบายสำหรับท่านสมาชิกผู้ใช้บริการของเรา หนังสือพิมพ์กะฉ่อนดอทคอม ทีมงานหนังสือพิมพ์กะฉ่อนดอทคอม จึงได้เปิดให้บริการใหม่ใน 4 หมวดคือ

1.วัตถุมงคลคณาจารย์ รุ่นต่างๆ(คลิ๊ก)
https://sacred.kachon.com

.....
2.ข่าววงการพระเครื่อง(คลิ๊ก)
https://publish.kachon.com

.....
3.ประวัติพระเกจิอาจารย์(คลิ๊ก)
https://monkhistory.kachon.com

.....
4.ประวัติวัดและพระพุทธรูป(คลิ๊ก)
https://historyoftemples.kachon.com


เป็น 4 หมวดที่เกี่ยวกับพระเครื่องโดยตรงในเว็ปกะฉ่อนดอทคอม ท่านสมาชิกสามารถใช้บริการของเราได้ในเว็ปเดียวโดยไปต้องย้อนกลับไปยังเว็ป https://pra.kachon.com อีกต่อไป ทีมงานหนังสือพิมพ์กะฉ่อนดอทคอม หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านสมาชิกจะได้รับความสดวกสบายและพอใจในบริการใหม่ของเราในครั้งนี้ความสดวกสบายและ
พอใจในบริการใหม่ของเราในครั้งนี้
Go to the top of the page
 
+Quote Post

Reply to this topicStart new topic
มี 1 คน กำลังอ่านหัวข้อนี้ (บุลคลทั่วไป 1 คน และ 0 สมาชิกที่ไม่เปิดเผยตัว)
สมาชิก 0 คน คือ :

 




Lo-Fi Version ขณะนี้เวลา : 25th June 2024 - 06:40 AM