ประสบการณ์เฉียดตาย เหรียญหลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง รุ่นแรกเหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง ปี 2511
จากหนังสือพิมพ์ข่าวสด
ประจำวันที่ 05 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
ปีที่ 20 ฉบับที่ 7281 ข่าวสดรายวัน
เหรียญหลวงพ่อสง่ารุ่นแรก
คอลัมน์ เปิดตลับพระใหม่
'พระครูอนุรักษ์วรคุณ' พระเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคมชื่อดังแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง หรือที่รู้จักกันดีในนาม
"หลวงพ่อสง่า อนุปุพโพ" พระเกจิดังแห่งเมืองโอ่งแห่งวัดหนองม่วง อ.บางแพ จ.ราชบุรี หลวงพ่อสง่า เกิดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2469 ที่บ้านหม้อ ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ในปี พ.ศ.2481 อุปสมบทที่วัดบ้านหม้อ จ.ราชบุรี โดยมีพระอธิการกลิ่น วัดคงคา เป็นพระอุปัชฌาย์ ศึกษาวิทยาคมจากหลวงปู่ดี วัดบ้านยาง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี, หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ จ.กาญจนบุรี, หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง และครูบาอาจารย์ท่านอื่น พ.ศ.2538 ย้ายกลับมาอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านหม้อ อ.โพธาราม มรณภาพลง เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2547 สิริอายุ 88 ปี พรรษา 66 หลวงพ่อสง่า ได้จัดสร้างวัตถุมงคลไว้ที่โดดเด่นหลายอย่าง แต่ที่โดดเด่นเป็นที่เลื่องลือ คือ เหรียญหลวงพ่อสง่า รุ่นแรก จัดสร้างปีเมื่อ พ.ศ.2511 เหรียญดังกล่าว เป็นเหรียญกลมรูปไข่ มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเนื้อเดียว คือ เนื้อทองแดงผสมผิวไฟ
เล่าขานกันว่า เหรียญรุ่นดังกล่าว หลวงพ่อสง่า ปลุกเสกที่วัดหนองม่วง หลวงพ่อได้ปลุกเสกไปแจกไปให้กับคณะศิษยานุศิษย์ ปลุกเสกตอนแรก พร้อมกับปั๊มทำเป็นเหรียญ ไม่มีการระบุ พ.ศ. แต่ครั้นพอทำไปได้จำนวนหนึ่ง หลวงพ่อท่านก็หยุด ให้ช่างแก้ไขใส่บล็อกเป็นเลขปี พ.ศ.2511 ไว้ที่ด้านหลัง ดังนั้น เหรียญรุ่นนี้ที่ไม่มีตัวเลขระบุปี พ.ศ. จึงมีจำนวนน้อยมาก ร่ำลือกันว่าเหรียญของหลวงพ่อสง่าที่ผ่านการปลุกเสก จะโดดเด่นเลื่องลือในพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน และแคล้วคลาดจากภยันตรายต่างๆ ด้านหน้าเหรียญ ตรงกลางเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อสง่าครึ่งองค์หันหน้าตรง ด้านล่างใต้รูปเหมือน เขียนคำว่า "พ.ศ.๒๕๑๑ พระครูอนุรักษ์วรคุณ วัดหนองม่วง" บริเวณรอบขอบเหรียญเป็นอักขระยันต์ ด้านหลังเหรียญ บริเวณตรงกลางเป็นอักขระยันต์ประจำตัวหลวงพ่อสง่า ขอบโค้งด้านบน ไปจนถึงขอบโค้งด้านล่าง เป็นอักขระยันต์ เหรียญรุ่นดังกล่าว คณะศิษยานุศิษย์ หรือผู้ที่ห้อยเหรียญหลวงพ่อสง่ารุ่นนี้ ต่างมีประสบการณ์หลากหลาย ตามความศรัทธา จึงจัดเป็นเหรียญดีที่กำลังมาแรง อนาคตไกลอีกเหรียญหนึ่งของเมืองราชบุรี
หลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง เกจิจอมขมังเวทแห่ง จ.ราชบุรี
หลวงพ่อสง่า อนุปุพฺโพ อดีตเจ้าอาวาสแห่งวัดหนองม่วงจังหวัดราชบุรี มีนามเดิมว่า สง่า เล่ห์ปะสุวรรณ เกิดเมื่อวันที่ 11มีนาคม 2459 เป็นบุตรของนายเขี้ยมและนางเม้า เล่ห์ปะสุวรรณ ณ บ้านหม้อ ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ชีวิตในวัยเยาว์ของท่านได้รับการศึกษาจากโรงเรียนวัดบ้านหม้อโดยมีบรรดาพระภิกษุสงฆ์
เป็นผู้อบรมสั่งสอนวิทยาวิชาการ อีกทั้งบางวันยังต้องนอนค้างที่วัดเพื่อช่วยปรนนิบัติรับใช้ พระสงฆ์อยู่เสมอๆ ดังนั้นชีวิตของหลวงพ่อสง่าจึงอยู่ใกล้ชิดกับพระและวัดมาโดยตลอดจนกระทั่ง ท่านเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จึงได้ออกจากโรงเรียนมาช่วยครอบครัวทำไร่ทำนา อุปนิสัยของท่านในวัยหนุ่มก็เหมือนกับวัยรุ่นในสมัยนั้นส่วนใหญ่ทั่วไป คือเมื่อเสร็จจากการทำงานก็มักไปเที่ยว เล่นสนุกสนานกับเพื่อนๆไปตามเรื่อง บางครั้งท่านก็ไปเที่ยวยังหมู่บ้านอื่น เพื่อเสาะแสวงหาความรู้ด้านคาถาอาคมจากครูอาจารย์ที่เก่งๆ แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจจนกระทั่งทราบมาว่าที่วัดไทรอารักษ์ มีอาจารย์ที่เชี่ยวชาญคาถาอาคมอยู่รูปหนึ่ง ท่านจึงดั้นด้นไปพบเพื่อขอเรียนวิชาแต่หลวงพ่อวัดไทรอารักษ์ กลับตั้งคำถามว่ามาจากที่ใดและพอทราบว่ามาจากบ้านหม้อ ท่านจึงปรารภขึ้นว่า "หาหญ้ากินไกลคอกเหลือเกินนะเรา อย่าลืมหญ้าปากคอกดูบ้างว่าหญ้าปากคอกนั้นงามขนาดไหน" นายสง่าในขณะนั้นได้แต่คิดถึงถ้อยคำปริศนาที่หลวงพ่อวัดไทรฯได้พูดถึงแต่ก็คิดไม่ออก
จนกระทั่งไม่นานท่านจึงไขปริศนาได้ว่า หญ้าปากคอกที่พูดถึงนั้นก็คือท่านพระครูเจ้าอาวาส วัดบ้านหม้อนั่นเอง ท่านจึงได้ปวารณาตัวเป็นศิษย์เพื่อเล่าเรียนวิชาอาคมนานนับปี จนมีความรู้แคล่วคล่องในบทสวด คาถาอาคม อักขระเลขยันต์พอควร ต่อมาในปี 2481 ท่านได้ตัดสินใจอุปสมบทที่วัดบ้านหม้อ จ.ราชบุรี ขณะมีอายุได้ 22 ปีโดยมี พระอธิการกลิ่น วัดคงคาเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เกลี้ยง วัดเฉลิมอาสน์เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์เช้งและพระอาจารย์แป๊ะ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ (สมัยนั้นใช้พระคู่สวดในพิธีกรรมถึง 3 รูป) ได้รับฉายาว่า อนุปุพฺโพ ครั้นอุปสมบทแล้วท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดบ้านหม้อ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยจนสามารถ สอบได้นักธรรมชั้นตรีและโทตามลำดับ รวมถึงวิชาอาคมที่ได้รับการถ่ายทอดมาจาก พระอาจารย์แป๊ะ พระอาจารย์เปีย วัดบ้านหม้อและวิชาการแพทย์แผนโบราณ วิชาสมุนไพร จนกระทั่งเรียกได้ว่ามีความเชี่ยวชาญยากหาใครเทียบในเวลานั้น ต่อมาในปี 2484 ทางวัดหนองม่วง อ.บางแพ จ.ราชบุรี ขาดพระสงฆ์ผู้นำที่จะดูแลวัด ชาวบ้านและไวยาวัจกรจึงได้พร้อมใจนิมนต์ท่านให้มาดูแลและพัฒนาวัดหนองม่วง หลวงพ่อสง่าพิจารณาดูแล้วเห็นด้วยกับเจตนาอันบริสุทธิ์ของชาวบ้าน ท่านจึงได้ย้ายมาอยู่ ที่วัดหนองม่วงตามคำขอและได้พัฒนาวัดให้ดีขึ้น ตามที่ชาวบ้านต้องการดังที่เห็นในปัจจุบัน โดยได้ใช้วิชาความรู้ที่เรียนมาให้เกิดประโยชน์กับชาวบ้านอย่างสูงสุด
การศึกษาพุทธาคม
หลวงพ่อสง่าเริ่มศึกษาคาถาอาคมและอักขระเลขยันต์ มาตั้งแต่ตอนสมัยเป็นหนุ่ม ทั้งวิชาสักยันต์ รดน้ำมนต์ ครั้นเมื่อท่านได้อุปสมบท แล้วก็ยังให้ความสนใจอย่างต่อเนื่องด้วยว่า แม้ไม่ใช่กิจของสงฆ์แต่ก็เป็นความนิยมของคนสมัยนั้น เพื่อให้เกิดศรัทธายึดเหนี่ยวทางจิตใจ โดยหลวงพ่อท่านได้เป็นอาจารย์สักยันต์อยู่หลายปีจนกระทั่งได้ข่าวว่า ผู้ที่ท่านสักให้ส่วนมากไปกระทำความชั่ว เป็นนักเลงเพราะฮึกเหิมลำพองในความคงกระพันของรอยสักที่หลวงพ่อสักให้ ท่านจึงได้เลิกพิธีกรรมการสักทั้งหมด เพราะเห็นว่าสิ่งนี้ไม่เกิดแก่นสารที่แท้จริง หลังจากนั้นเมื่อมีเวลาว่างท่าน ท่านได้ไปขอต่อวิชากับ หลวงปู่ดี วัดบ้านยาง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งเก่งในด้านการสร้างพระปิดตามหาอุตม์ คงกระพันชาตรี, หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ จ.กาญจนบุรี โดยได้รับการถ่ายทอดวิชาลบผงอิทธิเจ ปถมัง และการเขียนยันต์ 108, หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ได้วิชามหาอุตม์, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอมได้ครอบครูนะเมตตาและได้รับการสอนวิชาเจริญวิปัสสนา และท่านยังมีครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆอีกมากมาย ปฏิปทากิตติคุณและคุณธรรมของหลวงพ่อสง่า หลวงพ่อท่านจะมีเมตตาธรรมสูงส่งยิ่งนัก ท่านได้พัฒนาวัดหนองม่วง และพัฒนาคนในชุมชนวัดหนองม่วง ให้รู้จักหลักการดำเนินชีวิตอย่างปกติสุข สอนให้ทุกคนรู้จักอดทน ให้หมั่นเพียรพยายามพึ่งตนเองเป็นหลัก เอาชนะใจตนเองให้ได้ ท่านจะเน้นวิถีชีวิตอย่างชาวบ้านดั่งที่ท่านพร่ำสอนศิษย์เสมอว่า "คนเราถ้าไม่รวยก็อย่าจน ให้มีหิริโอตัปปะ ให้มีความอดทนและเพียรพยายามจะไม่อดตาย ความจนความรวย เราไม่ได้เอามาตั้งแต่เกิด แต่เราทำตัวเราให้รวย ให้จนได้ทั้งนั้น เป็นหนี้ก็เอามาให้พระแก้ เราต้องแก้ที่ต้นเหตุคือตัวเราเอง หาได้ใช้เป็น ใช้ให้น้อย หาพอเพียงก็จะไม่จน" อนิจจัง วัตสังขารา สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา หลวงพ่อสง่าท่านก็ไม่อาจพ้นจากพระพุทธพจน์บทนี้ได้ หลวงพ่อสง่าท่านได้ละสังขารลงอย่างสงบ เมื่อวังอังคาร แรม 4 ค่ำ เดือน 4 ปีวอก ตรงกับวันที่ 29 เดือนมีนาคม ปี 2547 สิริอายุรวม 78 ปี พรรษาที่ 56
ด้านวัตถุมงคลของหลวงพ่อสง่า หลวงพ่อท่านได้สร้างไว้มากมายหลายรุ่น จนไม่อาจกล่าวได้หมดในที่นี้ จึงจะขอกล่าวเฉพาะ วัตถุมงคลของท่านที่ยังคงเหลืออยู่ที่วัดหนองม่วงบางรุ่นคือ
1.เหรียญปั๊มรูปเหมือนหลวงพ่อสง่า ปี 2511(ยิงไม่เข้า)
2.เหรียญปั๊มรูปเหมือนหลวงพ่อสง่า ปี 2530 (ยิงไม่เข้า)
3.เหรียญปั๊มรูปเหมือนหลวงพ่อสง่า ปี 2531
4.เหรียญปั๊มรูปเหมือนหลวงพ่อสง่า ปี 2533 (รุ่นแจกแม่ครัว)
5.เหรียญหล่อโบราณรูปเหมือนหลวงพ่อสง่า ปี 2536
6.เหรียญปั๊มรูปเหมือนหลวงพ่อสง่า ปี 2537 (หล่อมไม่ละลาย)
คุณลุง ทวี เจ้าของประสบการณ์เฉียดตาย
อภินิหารยิงไม่เข้า เหรียญหลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง ปีพ.ศ. 2511-2530
เรื่องเล่าเรื่องนี้ได้บอกเล่าจากปากของคุณลุงทวี บ้านของท่านอยู่ใกล้กับวัดหนองม่วง ทุกวันนี้ท่านยังมีชีวิตอยู่ คุณลุงทวีได้กรุณาเล่าให้ฟังว่า ท่านเคยโดนศัตรูของท่านยิงด้วยปืน11มม.จนหัวโนเป็นลูกมะนาว แต่ลูกปืนไม่อาจละคายกายของท่านได้ และมีอีกครั้งหนึ่งท่านโดนยิงด้วยปืน m16 ลูกปืนก็ไม่อาจยิงท่านเข้า มีแต่รอยช้ำเป็นจ้ำๆ มีบ้างนัดเข้าติดหนังอยู่เลยต้องใช้มือแกะออก คุณลุงทวีท่านจะพกมีดตามประสาคนต่างจังหวัดทั่วไป เวลาไปไร่ไปนาก็ต้องติดมีดติดตัวไปด้วย คุณลุงทวีท่านเล่าว่า โดนยิงจนหมดแมกกาซีนจุกจนลุกไม่ขึ้นแต่ท่านยังกัดฟันลุกขึ้นมาชักมีดแบบปาดตาลเข้าต่
อสู้กับมือปีนที่มากัน2คน มือปีนเมื่อเห็นว่าลูกปืน m16 ยังไม่ละคายผิวกายของคุณลุงทีวซ้ำร้ายแกยังคว้ามีดปาดตาลลุกขึ้นมาสู้ ก็เลยตกใจรีบขับรถมอเตอร์ไซด์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ในตัวของคุณลุงทวีท่านจะพกตะกรุดโทนของหลวงพ่อสง่ากับคล้องเหรียญหลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง รุ่น 1 และรุ่น 4 หรือที่วงการเรียกกันว่ารุ่นปี 2511และ รุ่นปี 2530 คุณลุงทวีบอกว่า "ก็มีนี้แหละที่หลวงพ่อสง่าให้กับแกไว้ใช้กับหลวงพ่อกรุณาลงกระหม่อมให้แก" จริงๆแล้วหลวงพ่อสง่าท่านสำเร็จวิชากสิณไฟในด้านคงกระพันธ์ชาตรี จึงทำให้วัตถุมงคลของท่านออกไปทางเหนียวและเป็นมหาอุดต์ ซึ่งทำให้ข่าวนี้แพร่กระจายไปจนทั่ว ทำให้คนในพื้นที่จังหวัดราชบุรีและใกล้เคียง โดยเฉพาะข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ต่างมุ่งหน้าเข้ามาที่วัดหนองม่วง เพื่อขอบูชาเหรียญรุ่นนี้เป็นจำนวนมากในสมัยที่หลวงพ่อสง่ายังมีชีวิตอยู่
อนึ่งยังมีเรื่องเล่าประสพการณ์รอดตาย เกี่ยวกับเหรียญหลวงพ่อสง่า ปี30 อีกหลายราย ที่จะยกมาพอเป็นสังเขปอีกสักสองเรื่องคือ เรื่องของคุณนัทซื่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อสง่าท่านหนึ่ง เมื่อประมาณปี 2536 คุณนัทได้มากราบนมัสการหลวงพ่อสง่าที่วัดหนองม่วง และขอเช่าบูชาเหรียญหลวงพ่อสง่า ปี 30 ไปหลายสิบเหรียญ เมื่อเดินทางกลับไปบ้านแล้ว ซึ่งคุณนัทเป็นคนอำเภอดำเนินสะดวก คุณนัทก็ได้นำเหรียญหลวงพ่อสง่า ปี 30 มาแจกจ่ายให้กับพรรคพวกพี่น้องของคุณนัท ซึ่งมีอยู่คนหนึ่งที่ได้รับแจกเหรียญหลวงพ่อสง่า ปี 30 จากคุณนัท(ไม่ประสงค์ออกนาม) เมื่อได้เหรียญหลวงพ่อแล้วก็นำไปเลี่ยมขึ้นคอ อยู่มาวันหนึ่งช่วงพลบค่ำคุณคนนั้นได้นั่งเล่นที่บนสะพานหน้าบ้านของเขา ได้มีมือปืนเข้ามาประกบยิง ชายผู้นั้นจนตกสะพาน ในตอนโดนยิงตกลงน้ำไปนั้น ใครๆที่เห็นเหตุการณ์ก็คิดว่าคงไม่รอดแล้ว เมื่อมือปืนยิงเสร็จแล้วคิดว่าคงตายแน่ก็จากไป แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นคือ เพื่อนคุณนัทคนนั้นได้ว่ายน้ำมาขึ้นที่ตลิ่งหน้าบ้าน โดยเนื้อตัวไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด มีแต่รอยแดงเป็นจ้ำๆที่บริเวณที่โดนยิง เป็นที่ตื่นตะลึงของชาวบ้านผู้ที่ได้พบเห็นเหตุการณ์ คุณนัทพอรู้ข่าวว่าเพื่อนโดนยิงก็รีบมาดู พอรู้ว่าเพื่อนห้อยเหรียญหลวงพ่อสง่า ปี 30 ที่ตนให้ไว้แล้วโดนยิงไม่เข้า จึงได้ชักชวนเพื่อนคนที่โดนยิง และชาวบ้านแถวนั้นมาหา หลวงพ่อสง่าที่วัดหนองม่วงในคืนนั้นเลย เพื่อมากราบขอบคุณหลวงพ่อสง่าและให้หลวงพ่อ ประพรมน้ำมนต์เพื่อเป็นสิริมงคล หลวงพ่อสง่าท่านยังได้กล่าวอย่างถ่อมตนว่า ที่เพื่อนของเอ็ง โดนยิงไม่เข้านั้นเพราะดวงเขายังไม่ถึงฆาต ขอให้หมั่นทำบุญทำกุศลให้มากๆแล้วคุณพระคุณเจ้าจะคุ้มครองเอง
เหรียญหลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง ปี 2530
อีกเรื่องเกิดขึ้นที่กลางตลาดบ้านโป่ง เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณปี 2538 เหตุเกิดที่กลางตลาดบ้านโป่ง เวลาหลังเที่ยงคืน มีชายคนหนึ่งมานั่งกินข้าวต้มกับแฟนสาว ทันใดนั้นได้มีมือปืนเดินเข้ามาประกบยิงในระยะเผาขน จนชายคนนั้นตกจากเก้าอี้ที่นั่ง แล้วมือปืนก็วิ่งหนี้ขึ้นรถหนีไป หลังจากหายจุกแล้วชายคนนั้นได้ลุกขึ้นโดยที่เสื้อมีรอยโดยยิงจนเสื้อขาดเป็นรู ผิวกายเป็นรอยแดงเป็นจ้ำๆที่บริเวณที่โดนยิง นอกนั้นไม่เป็นอะไรเลย ทำให้ผู้พบเห็นเหตุการณ์ขอดูพระเครื่องในคอของเขาว่าใส่พระอะไร ทำไมถึงได้โดนยิงแล้วไม่เข้า ชายผู้นั้นได้นำพระเครื่องที่ห้อยคอออกมาให้ชาวบ้านดู ก็ปรากฎว่าเขาห้อยเหรียญหลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง ปี 30 เพืยงเหรียญเดียว เหตุการณ์ในครั้งนั้นเป็นที่โจษจันกันทั้งตลาดบ้านโป่ง
ประสพการณ์เหรียญหลวงพ่อสง่า ปี 30 ยังมีอีกหลายเรื่อง ส่วนใหญ่เหรียญของท่านจะไปดังทางจังหวัดชลบุรี มีคนที่ห้อยเหรียญหลวงพ่อสง่า ปี 30 แล้วโดนยิงไม่เข้าอีกหลายราย ดังนั้นเหรียญหลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง ปี 2530 ถือเป็นเหรียญที่มีประสพการณ์สูง ด้านคงกระพันอย่างเด่นชัด จึงเป็นเหรียญเกจิอาจารย์ที่น่าเสาะหามาสะสมเป็นอย่างยิ่ง
ข้อมูลยันต์ด้านหลังเหรียญหลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วงปี 2530
"ยันต์ด้านหลังเหรียญหลวงพ่อสง่าปี 2530 เรียกว่ายันต์อะไร มีความหมายว่าอย่าไร"
รอบนอกสุดเป็นพระคาถาพระเจ้า 16 พระองค์
รอบที่สองเป็นพระคาถาอิติปิโสแปดทิศ
ยันต์ดวงกลางเรียกว่ายันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า
มีของดีซ่อนอยู่ น่าสนใจครับ เป็นคำบริกรรมภาวนาว่า "สัมมาอะระหังพุทโธ"
ส่วนรูปเล็กๆเป็นพญานาค เป็นปีเกิด หลวงพ่อสง่า
เท่าที่พิจารณาดูแล้ว เหรียญปี 2530 ที่ว่าน่าใช้นั้น เพราะมีข้อสังเกตุดังนี้
หลวงพ่อสง่าท่านจะเน้นเรื่องพุทธคุณมาก(เป็นฤทธิ์ที่สำเร็จได้ด้วยพุทธคุณ)
หลวงพ่อสง่าท่านเป็นพระนักกรรมฐานที่ฝึกฝนกรรมฐานมาเป็นอย่างมาก ท่านถึงให้ความสำคัญ แทรกยาดำด้วย คำภาวนาว่า "สัมมาอะระหังพุทโธ"
หลวงพ่อสง่าท่านเป็นผู้ชำนาญเรื่องฤกษ์เรื่องยามเป็นอย่างดี ถึงให้ความสำคัญกับ จักรราศี เหรียญปี 2530 นั้นหลวงพ่อสง่าท่านจะเน้นพุทธคุณเด่นในทางคงกระพันชาตรี และแคล้วคลาด อักขระเลขยันต์ที่ใส่ไว้ในเหรียญของท่าน แบบที่จะเห็นอยู่ในด้านหลังเหรียญของท่านรุ่นปี 2530
วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
ปีที่ 20 ฉบับที่ 7289
ข่าวสดรายวันเหรียญหลวงพ่อสง่า
คอลัมน์ เปิดตลับพระใหม่
'พระครูอนุรักษ์วรคุณ' พระเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคมชื่อดังแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง
หรือที่รู้จักกันดีในนาม 'หลวงพ่อสง่า อนุปุพโพ' พระเกจิดังแห่งเมืองโอ่งแห่งวัดหนองม่วง อ.บางแพ จ.ราชบุรี
เกิดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2469 ที่บ้านหม้อ ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราช บุรี
ปี พ.ศ.2481 อุปสม บทที่วัดบ้านหม้อ จ.ราชบุรี มีพระอธิการกลิ่น วัดคงคา เป็นพระอุปัชฌาย์
ศึกษาวิทยาคมจากหลวงปู่ดี วัดบ้านยาง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี, หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ จ.กาญจนบุรี, หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง และครูบาอาจารย์ท่านอื่น
พ.ศ.2540 ได้ย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านหม้อ อ.โพธาราม
หลวงพ่อสง่า มรณภาพลง เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2547 สิริอายุ 88 ปี พรรษา 66
จัดสร้างวัตถุมงคลไว้ที่โดดเด่นหลายอย่าง แต่ที่โดดเด่นเป็นที่เลื่องลือ นอกจากเหรียญหลวงพ่อสง่า รุ่นแรก จัดสร้างปีเมื่อ พ.ศ.2511 ยังมี 'เหรียญหลวงพ่อสง่า ปี 2530 รุ่นประสบการณ์ วัดหนองม่วง
เหรียญดังกล่าว เป็นเหรียญกลมรูปไข่ มีหู จัดสร้างเป็นเนื้อทองแดง จำนวนการสร้างไม่ได้ระบุชัดเจน
เล่าขานกันว่า เหรียญรุ่นดังกล่าว หลวงพ่อสง่า ปลุกเสกที่วัดหนองม่วง อ.บางแพ จ.ราชบุรี หลวงพ่อได้ปลุกเสกไปแจกให้กับคณะศิษยานุศิษย์
ด้านหน้าเหรียญ ตรงกลางเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อสง่าครึ่งองค์หันหน้าตรง ด้านล่างใต้รูปเหมือน เขียนคำว่า "พระครูอนุรักษ์วรคุณ" และ "วัดหนองม่วง อ.บางแพ จ.ราชบุรี พ.ศ.๒๕๓๐" บริเวณรอบขอบเหรียญเป็นอักขระยันต์
ด้านหลังเหรียญ บริเวณตรงกลางเป็นอักขระยันต์ประจำตัวหลวงพ่อสง่า ขอบโค้งด้านบน ไปจนถึงขอบโค้งด้านล่าง เป็นอักขระยันต์ ด้านล่างใต้อักขระยันต์ เป็นรูปพญานาค
เหรียญรุ่นดังกล่าว มีพุทธคุณเข้มขลังในด้านอยู่ยงคงกระพัน แคล้ว คลาดปลอดภัย
คณะศิษยานุศิษย์ หรือผู้ที่ห้อยเหรียญหลวงพ่อสง่ารุ่นนี้ ต่างมีประสบ การณ์หลากหลาย ตามความศรัทธา ทำให้เหรียญหลวงพ่อสง่า รุ่นปี 2530 ถูกขนานนามว่า "รุ่นประสบการณ์"
ด้วยเป็นรุ่นดังที่สุดอีกรุ่นในเรื่องแคล้วคลาดปลอดภัย ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงภัย นิยมหาไว้บูชากันเป็นจำนวนมาก
ราคาเช่าบูชาอยู่ที่เหรียญละ 1,000-1,300 บาท หรือมากกว่านั้นตามความสวยคมของเหรียญ
จึงจัดเป็นเหรียญดีที่กำลังมาแรง อนาคตไกลอีกเหรียญหนึ่งของเมืองราชบุรี
สำหรับศิษยานุศิษย์ของหลวงสง่าที่ต้องเหรียญรุ่นปี 2530 "รุ่นประสบการณ์"นี้ทางวัดหนองม่วง
ยังพอมีเหรียญรุ่นนี้ ที่ตกค้างอยู่ที่วัดหนองม่วงบ้าง ท่านใดสนใจติดต่อสอบถามได้ที่ พระครูประภาสธรรมทัต
เจ้าอาวาสวัดหนองม่วง ตำบลวังเย็น อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี
เบอร์โทรศัพท์ วัดหน่องม่วง = 032-351583 มือถือ = 086-0609249
เหรียญหลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง ปี 2537 ที่หลอมไม่ละลาย(เหรียญที่ 1)
อภินิหารเหรียญหลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง หล่อมไม่ละลาย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2547 ที่วัดบางสองร้อย อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นวัดที่หลวงพ่อสง่า ให้การอุปภัมท์อยู่ ได้ทำพิธีเททองหล่อประธานเพื่อไว้ในพระอุโบสถ เนื่องจากได้สร้างพระอุโบสถหลังใหม่ ปกติประธานฝ่ายสงฆ์คือหลวงพ่อสง่า แต่เนื่องจากหลวงพ่อสง่าท่านได้มรณภาพลงก่อนแล้วในวันที่ 29 มีนาคม 2547 ทางคณะกรรมการวัดและลูกศิษย์ของหลวงพ่อสง่าที่ทราบเรื่อง จึงได้รวบรวมเงินค่าจ้างและให้ทางวัดบางสองร้อย ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่หลวงพ่อสง่าตั้งใจไว้ ในพิธีที่จะทำการหล่อประธานนั้น คณะลูกศิษย์ของหลวงพ่อสง่าได้เตรียมเหรียญหลวงพ่อสง่า ปี 2537 รุ่นไร้ห่วงเนื้อโลหะผสมหรือบ้างท่านเรียกเนื้อนวะโลหะจำนวนประมาณ 40-50 เหรียญเพื่อนำมาหลอมรวมกับ
เหรียญหลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง ปี 2537 ที่หลอมไม่ละลาย(เหรียญที่ 2)
โลหะต่างๆที่หลวงพ่อสง่าได้จัดเตรียมไว้ให้ก่อนที่ท่านจะมรณะภาพ ต่อมาเมื่อช่างหล่อได้ทำการหล่อหลอมโลหะต่างๆได้เวลานานพอสมควรแล้ว คณะกรรมการได้นำเหรียญหลวงพ่อสง่ารุ่นนี้ใส่ลงไปทั้งหมดเพื่อที่จะเริ่มทำพิธีเททอง แต่ผลที่ออกมาคือเหรียญหลวงพ่อสง่า รุ่นปี 2537 ยังคงลอยไม่จมและไม่ยอมละลาย ช่างหล่อจึงได้ใช้ตะบวยที่ตักน้ำโลหะ คนและทิ้งไว้อีกประมาณ 30 นาที ซึ่งอุณหภูมิในเตาหลอมขณะนั้นประมาณ 1500-2000 องศา เหรียญหลวงพ่อสง่าก็ยังไม่ยอมละลาย ช่างหล่อเลยต้องตักเหรียญหลวงพ่อสง่าออกมา แล้วจึงทำการหล่อพระต่อไปจนแล้วเสร็จ หลังจากเสร็จพิธีแล้วช่างหล่อก็นำเหรียญหลวงพ่อที่ไม่ยอมละลายนั้นมาแบ่งกัน บางคนได้มากบ้างน้อยบ้างซึ่งทุกคนเคยทำงานหล่อพระมา10-20 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย ภาพนี้ได้มาจากช่างที่ทำพิธีหล่อพระในวันนั้น ที่ได้พระส่วนแบ่งมา แล้วนำไปถ่ายรูปเก็บไว้ จึงนำมาให้ชมกัน เพราะบุญบารมีความเข้มขลังจากการปลุกเสกของหลวงพ่อสง่า จึงทำให้เกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์นี้
เหรียญหลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง ปี 2537 ที่หลอมไม่ละลาย(เหรียญที่ 3-5) อนึ่งเนื่องจากขณะนี้ ทางวัดหนองม่วงกำลังก่อสร้างศาลาการเปรียญ แต่ยังขาดจัตตุปัจจัยอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นท่านที่สนใจอยากได้วัตถุมงคลของ หลวพ่อสง่า ปี 2530 และปี2537 ที่ยังคงเหลืออยู่ที่วัดหนองม่วงดังกล่าวข้างต้น ท่านสามารถติดต่อขอบูชาได้โดยตรงที่ พระครูประภาสธรรมทัต เจ้าอาวาสวัดหนองม่วง ตำบลวังเย็น อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี เบอร์โทรศัพท์ วัดหน่องม่วง = 032-351583 มือถือ = 086-0609249
ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพกฐิน วัดหนองม่วง รับแจกฟรี เหรียญหลวงพ่อสง่า ปี 2537 (หลอมไม่ละลาย)ข้อมูลจาก กะฉ่อนพระเครื่อง