หลวงพ่อบ๊ก กัลยาณี

หลวงพ่อบ๊ก กัลยาณี

คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6
สุธน พันธุเมฆ

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก Khaosod Online

'หลวงพ่อบ๊ก กัลยาณี' หรือ 'พระอธิการสุวรรณ กัลยาณี' อดีตเจ้าอาวาสวัดเนินพยอม ต.หลุมเข้า อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังรูปหนึ่งในพื้นที่ลุ่มน้ำสะแกกรังหรือที่ชาวบ้านทั่วไปรู้จักกันในนามพระเกจิ 5 แผ่นดิน เป็นสหธรรมิก กับ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ แห่งวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราช สีมา

หลวงพ่อบ๊ก เป็นศิษย์เรียนวิทยาคมจากพระเกจิดังมากมาย อาทิ หลวงพ่อเคน วัดดงเศรษฐี, หลวงพ่อพูน วัดหนองตางู, หลวงพ่อพุฒ วัดทุ่งแก้ว ฯลฯ

ครั้งหนึ่ง พระสุธรรมญาณเถระ หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ยังเคยปรารภว่า "พระอริยสงฆ์ที่ควรบูชา มี 2 รูป คือ หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค และหลวงพ่อบ๊ก วัดเนินพยอม"

อัตโนประวัติ หลวงพ่อบ๊ก มีนามเดิมว่า สุวรรณ หรือบ๊ก อาจมิตร์ เป็นชาวอุทัยธานีโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2452 ปีระกา ที่บ้านเนินพยอม หมู่ 5 ต.หลุมเข้า อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี ครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม

ชีวิตวัยเยาว์ค่อนข้างยากลำบาก ท่านเรียนหนังสือจบชั้น ป.4 ที่โรงเรียนวัดเนินพยอม จบแล้วออกมาช่วยครอบครัวเลี้ยงน้องและ ทำนา

อายุ 25 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดเนินพยอม เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2477 โดยมีพระครูสุนทรธรรมวินิฐ วัดสิทธิการาม อ.มโนรมย์ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระมหาถนอม วัดท่าโพ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์อ่อน วัดเนินพยอม เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ภายหลังอุปสมบท ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดเนินพยอม ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมเป็นเวลา 3 พรรษา ต่อมาจึงย้ายไปอยู่จำพรรษาที่วัดจุฬามณี จ.พิษณุโลก จำพรรษาอยู่ 2 พรรษา

ก่อนที่ชาวบ้านเนินพยอมได้พร้อมใจกันเดินทางไปนิมนต์หลวงพ่อบ๊กกลับมาอยู่ที่วัดเนินพยอมตามเดิม

นอกจากท่านจะเพียรศึกษาพระธรรมวินัยด้วยความวิริยอุตสาหะแล้ว ท่านยังสนใจด้านพุทธาคม ได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อเคน วัดดงเศรษฐี ศึกษาวิทยาคม ตลอดจนการทำน้ำมันมนต์รักษาแผลและกระดูกหัก

พร้อมกันนี้ได้ศึกษาเวทอาคมขลังกับหมอหวิงและหมอแพรง ซึ่งเป็นฆราวาสลูกศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ตลอดจนฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อพูน วัดหนองตางู ถือเป็นศิษย์ผู้พี่ของหลวงปู่ตี๋ ญาณโสภโณ วัดหลวงราชาวาส และท่านยังเป็นศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมจาก หลวงพ่อพริ้ง วัดหาดสูง และหลวงพ่อพุฒ วัดทุ่งแก้ว อีกด้วย

วันที่ 5 เมษายน 2483 ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเนินพยอม

หลวงพ่อบ๊ก มุ่งมั่นศึกษาทั้งด้านพระปริยัติและปฏิบัติ เคร่งครัดพระธรรมวินัย มีปฏิปทาที่มั่นคง ประพฤติดีประพฤติชอบ มัธยัสถ์ สมถะเรียบง่าย จิตใจโอบอ้อมอารี สงเคราะห์ญาติโยมที่เดือดร้อนและปกครองสงฆ์ด้วยความเมตตา ไม่เคยดุด่าว่าใคร

วันที่ 1 กันยายน 2543 นายพยุงศักดิ์ เสสะเวช อดีตผู้ว่าราชการ จังหวัดอุทัยธานี ได้ถวายโล่เชิดชูเกียรติคุณ หลวงพ่อบ๊ก กัลยาณี "เป็นพระสังฆาธิการที่ประพฤติ ปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม"

ด้านวัตถุมงคล หลวงพ่อบ๊กจัดสร้างเป็นครั้งคราว จำนวนไม่มาก แต่ทุกรุ่นได้รับความนิยมจากบรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องทั่วไป

หลวงพ่อบ๊ก เคยกล่าวปรารภว่า "ของดีไม่ต้องโฆษณา ถ้าเขาศรัทธาก็มาหาเอง"

ในวันธรรมสวนะ หลวงพ่อบ๊ก จะเทศนาสอนให้ประพฤติตนเป็นคนดีของครอบครัวและสังคม ให้มัธยัสถ์ ไม่ฟุ่มเฟือย รู้จักประมาณตน จนสาธุชนทั่วไปยกย่องท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ "ผู้มีวาจาสิทธิ์"

วันที่ 6 กันยายน 2545 หลวงพ่อบ๊ก ได้มรณภาพด้วยโรคชรา สิริอายุ 93 ปี พรรษา 78

ปัจจุบันสังขารหลวงพ่อบ๊กได้นอนสงบนิ่งในโลงแก้ว บนหอสวดมนต์ วัดเนินพยอม มานานกว่า 9 ปี แต่สังขารไม่เน่าเปื่อย ผิวพรรณนวลเหลือง

เหลือเพียงคุณงามความดีและวัตรปฏิบัติอันงดงามจารึกอยู่ในจิตใจของบรรดาศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนตราบชั่วกาลนาน