|
คอลัมน์ เดินสายไหว้พระ
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก ผู้จัดการออนไลน์
|
เมืองตรังเป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ด้านฝั่งทะเลตะวันตก มีหลักฐานความเป็นมาที่ยาวนาน จากหลักฐานจากศิลาจารึกหุบเขาช่องคอย ต.ควนเกย อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรได้สำรวจและบันทึกรายงานไว้เมื่อปี พ.ศ.2523
เนื้อความเป็นบทบูชาพระศิวะ จารึกด้วยอักษรอินเดียใต้ เป็นภาษา สันสกฤต อายุราวพุทธศตวรรษที่ 11-12 จารึกนี้แสดงว่ามีกลุ่มคนผู้บูชาพระศิวะ ซึ่งเป็นความเชื่อทางศาสนา พราหมณ์ลัทธิไศวนิกาย ใช้เส้นทางแม่น้ำตรังแยกเข้าทางคลองกะปาง ผ่านบ้านถ้ำพระเข้าสู่หุบเขาช่องคอย เข้า-ออกกับนครศรีธรรมราช
หลักฐานศาสนสถานและโบราณวัตถุ ได้แก่ วัดเก่าซึ่งเป็นวัดใหญ่ถึงสามวัดอยู่ใกล้กันในอำเภอห้วยยอด และอยู่ไม่ไกลจากแม่น้ำตรัง คือวัดคีรีวิหาร วัดหูแกง วัดย่านเกลื่อน
โดยเฉพาะวัดย่านเกลื่อน เป็นวัดร้าง มีวัดนอกและวัดใน อาณาเขตติดแม่น้ำตรัง เคยมีผู้ขุดพบพระทองคำและมีหลักศิลาปักแสดงแนวเขตอุโบสถทั้งสี่ทิศ ทั้งมีใบเสมาและเสาหงส์ วัดคีรีวิหารมีพระบรรทมและพระพุทธรูปโบราณในถ้ำ อีกทั้งยังพบพระพิมพ์ดินดิบที่เรียกกันว่าพระผีทำด้วย
วัดหูแกงมีพระพุทธรูปในถ้ำแต่ถูกทำลายไปแล้ว เหลือแต่อิฐและเสาหงส์ปรากฏอยู่ ที่เขาสายใกล้วัดหูแกงและที่เขาขาวก็มีพระพิมพ์เช่นกัน
พระพิมพ์ที่พบมีหลายลักษณะ ดังที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงบันทึกไว้เมื่อคราวเสด็จฯ ตรวจราชการแหลมมลายู ปี 2445 ว่า
"ที่ถ้ำวัดคีรีวิหาร มีรูปภาพพิมพ์บนดินดิบ วางซ้อนทับไว้กับพื้นมาก ที่เลือกพบมีสามอย่างด้วยกัน เป็นรูปลูกไข่อย่างหนึ่ง มีรูปพระสี่กรอยู่กลาง มีเทวดาล้อม 8 ตน เป็นรูปกลีบบัวอย่างหนึ่ง มีรูปพระสี่กรองค์เดียวใหญ่ รูปแผ่นอิฐอย่างหนึ่ง มีรูปพระสองกรอยู่กลาง (ที่พุทธรูป) มีสาวกฤาเทวดาสองข้าง อย่างรูปไข่มีมาก อย่างกลีบบัวมีน้อย อย่างแผ่นอิฐได้อันเดียว"
"ที่ถ้ำเขาสาย รวมเทวรูปที่ได้มี 6 ชนิด คือ 1.รูปพระโพธิสัตว์สี่กรนั่งขัดสมาธิ 2.รูปอย่างเดียวกันแต่ขนาดย่อม 3.รูปพระโพธิสัตว์สองกรนั่งห้อย 4.รูปพระโพธิสัตว์สองกรยืน 5.รูปพระพุทธเจ้านั่งขัดสมาธิ 6.รูปอย่างเดียวกันแต่องค์เล็ก ยังมีอีกที่ไม่รู้ว่าอะไร เป็นทีเม็ดยอดอะไรก็มี มีลายแลชิ้นอะไรแตกๆ มีตราหนังสือ..."
ต่อมายังมีผู้พบพระพิมพ์ดินดิบรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรจากถ้ำเขาขาว อ.ห้วยยอด
สำหรับ "พระพุทธไสยาสน์ทรงเทริดมโนราห์" ประดิษ ฐาน ณ วัดภูเขาทอง ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง เป็นพระพุทธรูปองค์เดียวในประเทศไทย ที่พระเศียรสวม "เทริดมโนราห์"
"เทริด" ถือเป็นเครื่องประดับศักดิ์สิทธิ์ เป็นของสูงสำหรับตัวนายโรง หรือมโนราห์ใหญ่
พระพุทธไสยาสน์ทรงเทริดมโนราห์ก่ออิฐถือปูน ประดิษฐานอยู่ใต้เพิงผาหน้าถ้ำภูเขาทอง ขนาดความยาวตั้งแต่พระเกศถึงพระบาท 9 หลา ขนาดองค์พระโดยรอบ 3 หลา สร้างมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีวิชัย ราวพุทธศตวรรษที่ 13 ฝีมือช่างชาวบ้าน พระพักตร์คล้าย "ขุนศรีศรัทธา" อดีตเจ้าเมืองพัทลุง ผู้ค้นคิดศิลปะมโนราห์ จนเจริญรุ่งเรืองในภาคใต้
ตำนานเล่าว่า เมื่อปี 1493 ขุนศรีศรัทธาและพระชายาผู้มีนามว่า "พระนางเลือดขาว" ทราบว่า พระเจ้าศรีธรรมโศกราชที่ 2 เจ้าเมืองนครศรี ธรรมราช กำลังบูรณะองค์พระบรมธาตุ เมืองนครศรี ธรรมราช
ขุนศรีศรัทธาคิดช่วย เหลือนำทรัพย์สินเงินทองไปช่วยถวายเป็นพุทธบูชา แต่ระยะทางไกล การบูรณะองค์พระบรมธาตุเสร็จสิ้นเสียก่อน จึงนำทรัพย์สินทั้งหลายบรรจุ ไว้ในถ้ำเขาชุมทอง (วัดภูเขาทอง) และถ้ำเขาหลักจันทร์ หรือเขาโหรง พร้อมอธิษฐานให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยพิทักษ์รักษา เพื่อนำทรัพย์สินเงินทองที่เก็บไว้ไปสร้างวัดวาอารามตามความตั้งใจเดิม
จากนั้นได้สร้างพระพุทธไสยาสน์ทรงเทริดมโนราห์ไว้หน้าปากถ้ำ และเดิมบริเวณนั้นไม่ใช่วัด แต่เมื่อพบพระพุทธไสยาสน์ฯ ทำให้ชาวบ้านร่วมกันสร้างวัดภูเขาทอง เมื่อปี 2465
ปัจจุบันวัดภูเขาทองเป็นที่ปฏิบัติธรรม ฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐาน รวมถึงกราบไหว้สักการะพระพุทธไสยาสน์เทริดมโนราห์ด้วย
ว่ากันว่าขอพรสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้นสมดังปรารถนา
.......
ประมวลปาฏิหาริย์แห่งเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ(คลิ๊ก) https://sacred.kachon.com/353522
ชมภาพทั้งหมด คลิ๊ก ชมคลิปทั้งหมด คลิ๊ก
ชมภาพทั้งหมด คลิ๊ก ชมคลิปทั้งหมด คลิ๊ก
|
|