|
คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6
สมฤทธิ์ ชัยพลังฤทธิ์
"พระมหาโพธิวงศาจารย์" (สุจี กัตสาโร) เจ้าอาวาสวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร อ.เมือง จ.แพร่ พุทธศาสนิกชนชาวแพร่ และจังหวัดใกล้เคียงในดินแดนล้านนา ต่างรู้จักเป็นอย่างดียิ่ง
ด้วยหลวงปู่เป็นผู้ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาคณะสงฆ์และการศึกษาสายสามัญ รวมทั้งสร้างคุณูปการอันประเสริฐมาสู่ชาวเมืองแพร่อย่างมากมาย
บัดนี้ พระมหาโพธิวงศาจารย์ มรณ ภาพด้วยอาการสงบ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 พฤศจิกายน 2554 ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ สิริอายุ 95 ปี พรรษา 80 สร้างความโทมนัสแก่ชาวเมืองแพร่เป็น อย่างยิ่ง
ประวัติธรรมพระมหาโพธิวงศาจารย์ ท่านมีนามเดิมว่า สุจี ขรวงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2460 ที่หมู่ 6 ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่ โยมบิดา-มารดา คือ นายลาดและนางฝัน ขรวงค์
เริ่มต้นการศึกษาในระดับชั้นประถมจาก ร.ร.วัดนาจักร จนเรียนจบชั้น ป.5 ก่อนบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดกาญจนาราม อ.เมือง จ.แพร่ พอครบวัย 21 ปีบริบูรณ์ อุปสมบท เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2481 ณ วัดกาญนาราม อ.เมือง จ.แพร่ มีพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์
พระสุจีเป็นภิกษุที่มีใจใฝ่ศึกษาธรรมะอย่างตั้งใจ เพียง 3 ปี สามารถสอบได้นักธรรมเอก สำนักเรียนวัดพระบาทมิ่งเมือง พ.ศ.2486 สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค ณ สำนักเรียนเดิม และได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจนักธรรมชั้นตรี-โท สนามหลวง ตามลำดับ
ผลงานด้านปกครอง พ.ศ.2501 ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ ปีถัดมาได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร พ.ศ.2509 ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดแพร่ พ.ศ.2522 ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะภาค 6
พ.ศ.2541 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6
ริเริ่มการจัดกิจกรรมภายในวัด มีการทำอุโบสถกรรม สวดปาติโมกข์ตลอดปี และจะต้องมีพระภิกษุสวดปาติโมกข์ ได้ 1 รูป มีการสวดมนต์ทำวัตรเช้าเย็นเป็นประจำตลอดปี จัดการปกครองภายในวัดเป็นไปตามกฎระเบียบของมหาเถรสมาคม พระธรรมวินัยและอาณัติสงฆ์ในเขตหนเหนือ จนถึงปัจจุบัน
งานด้านการศึกษา ท่านให้การสนับสนุน ร.ร.บาลีมัธยมธรรมราชวิทยา เป็น ผอ.ร.ร.พุทธศาสนาวันอาทิตย์ และเป็นผอ.ร.ร.ศึกษาผู้ใหญ่พุทธโกศัยวิทยา พ.ศ.2530 เป็นรองอธิการบดีมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่
พ.ศ.2541 เป็นประธานสภาวิทยาเขต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่ ส่งเสริมพระภิกษุสามเณรที่เรียนดีไปเรียนต่อชั้นสูง เช่น ส่งไปเรียนสำนักเรียนวัดเบญจมบพิตรฯ สำนักเรียนวัดชนะสงคราม สำนักเรียนวัดปากน้ำ
งานเผยแผ่ธรรมะ ท่านเป็นกรรมการส่งเสริมศีลธรรมจังหวัดแพร่ พ.ศ.2490 เป็นผู้แทนนำพระไตรปิฎกไปประดิษฐานที่อำเภอวังชิ้น
พ.ศ.2539 ได้เริ่มแสดงธรรมเทศนาทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดแพร่ ในชื่อราย การธรรมะสู่ประชาชน เป็นประจำทุกวัน เวลา 05.15-06.00 น. โดยเชิญชวนพระภิกษุสามเณรและญาติโยมผู้ใจบุญ ทำพิธีกรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา รวมทั้งให้การอบรมธรรมะแก่ประชาชนตามโครงการต่างๆ ของคณะสงฆ์และหน่วยราชการ
ผลงานด้านสาธารณูปการ ท่านเป็นประ ธานการก่อสร้างสิ่งต่างๆ ภายในวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร ในปี พ.ศ.2527 อาทิ การสร้างกุฏิ หอสมุด อาคารอเนกประสงค์ สร้างแท่นพระประธาน บูรณปฏิสังขรณ์พระวิหาร สร้างอาคารหอพักพระภิกษุสามเณร ขนาด 5 ชั้น สร้างตึกสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก 5 (ร.ร.พุทธโกศัยวิทยา) ขนาดสูง 5 ชั้น สร้างที่พักผู้ต้องขัง สร้างหอบูรพาจารย์เฉลิมพระเกียรติ ร.9
นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่เป็นประธานไกล่เกลี่ยระงับเหตุการณ์ขัดแย้งระหว่างชาวบ้านด้วยกันในจังหวัดแพร่และต่างจังหวัด รวมทั้งเป็นประธานจัดบรรพชาสามเณรฤดูร้อนจังหวัดแพร่ เป็นประจำทุกปี
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2500 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระภัทรสารมุนี พ.ศ.2515 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่พระราชรัตนมุนี พ.ศ.2526 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพวิริยาภรณ์ พ.ศ.2535 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่พระธรรมรัตนกร
พ.ศ.2540 เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏที่ พระมหาโพธิวงศาจารย์
เกียรติคุณที่พระมหาโพธิวงศาจารย์ ได้รับการยกย่องมีมากมายยิ่ง พ.ศ.2527 ได้รับรางวัลเสาเสมาธรรมจักรผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม สาขาการบริหารการศึกษา พ.ศ.2536 ได้รับปริญญาครุศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาบริหารการศึกษา) จากสถาบันราชภัฏอุตรดิตถ์ เป็นต้น
พ.ศ.2540 ได้รับเกียรติบัตรจากสภาวัฒนธรรม จ.แพร่ เป็นผู้ให้การสนับสนุนและส่งเสริมงานด้านวัฒธรรมของจังหวัด
พระมหาโพธิวงศาจารย์นับเป็นปูชนียบุคคลที่ชาวแพร่จะต้องจารึกถึงคุณงามความดีไว้ตลอดไป |
|